ศศลักษณ์ ไหประโคน แบ็คซ้ายคนสำคัญ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิดใจผ่าน สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) เกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆ ทั้งประสบการณ์ค้าแข้งในเคลีก เกาหลีใต้ กับ ชุนบุค ฮุนได มอเตอร์ และ เป้าหมายในศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2022 ก่อนมีคิวบุกเยือน แดกู เอฟซี ในรอบเพลย์ออฟ รอบ 3
ศศลักษณ์ กลายเป็นนักเตะไทยคนแรกในรอบ 36 ปี ที่คว้าแชมป์ลีกสูงสุด เกาหลีใต้ มาครอง กับ ชุนบุค ฮุนได มอเตอร์ส เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ก่อนหมดสัญญายืมตัว และ กลับมาเป็นกำลังหลักให้ ปราสาทสายฟ้า อีกครั้ง ที่สำคัญ ปัจจุบันยังอยู่ในเส้นทางช่วยทีมลุ้นคว้า ‘เทรเบิ้ลแชมป์’ ในซีซั่นนี้
“มันเป็นประสบการณ์ที่ดีที่ได้เจอนักเตะเก่ง ๆ หลายคนที่เคยค้าแข้งในยุโรปมาก่อน เช่นเดียวกับนักเตะทีมชาติเกาหลีใต้ เพราะผมได้เรียนรู้สิ่งดี ๆ จากพวกเขา” ศศลักษณ์ เริ่มกล่าวเปิดใจผ่าน เอเอฟซี ถึงประสบการณ์ค้าแข้งที่เคลีก 6 เดือน
“เคลีกนั้นแข็งแกร่งกว่าไทยลีกมาก และจังหวะเกมที่เล่นกันก็เร็วกว่า ผมดีใจที่ได้กลับมาบ้านที่บุรีรัมย์ เพราะมันไม่ง่ายเลยในการไปเล่นต่างแดนครั้งแรก อย่างไรก็ตามมันก็มีความเสียใจบางอย่างที่ผมทำไม่สำเร็จ”
“ส่วนสิ่งที่ทำให้ ธีราทร (บุญมาทัน) และ ชนาธิป (สรกระสินธ) ทำผลงานได้ดีที่ญี่ปุ่น คือจิตใจของพวกเขา ผมคิดว่า พวกเขาทั้งคู่ไม่เกรงกลัวการลงเล่นต่างแดน”
ดาวเตะวัย 26 ปี ยังกล่าวต่อว่า “ถ้านักเตะไทยไปเล่นต่างแดนได้โดยปราศจากความกลัว พวกเขาไม่เพียงแต่จะพัฒนาขึ้น แต่ยังประสบความสำเร็จอีกด้วย มันเป็นเรื่องดีสำหรับผมที่ ธีราทร กลับมาบุรีรัมย์ เพราะเขามีประสบการณ์มากมายมาจาก เจลีก ดังนั้นผมต้องงการเรียนรู้สิ่งที่เขาทำเพื่อประสบความสำเร็จ เพื่อที่ผมจะทำได้ด้วยตัวผมเอง”
เมื่อถูกถามถึงโปรแกรมรอบเพลย์ออฟ ที่เตรียมบุกไปเยือน แดกู เอฟซี ในศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ศศลักษณ์ บอกว่า
“ผมรู้ดีว่า แดกู เล่นในแนวทางที่คล้ายกับทีมเกาหลีทีมอื่น และนักเตะต่างชาติของพวกเขาสามารถสร้างความแตกต่างได้ ดังนั้นมันจะเป็นเกมที่เข้มข้น แต่ผมเชื่อว่าเราสามารถเอาชนะและผ่านสู่รอบแบ่งกลุ่มได้”
“มันเป็นประสบการณ์ที่ดีที่ได้เล่นให้ชุนบุค (รอบ 16 ทีมปีที่แล้ว) และปีนี้ ผมอยากจะโชว์ฟอร์มให้ดีใน เอซีแอล เพื่อแสดงให้เห็นว่าผมทำอะไรได้บ้าง เป้าหมายแรกของผมคือการเข้ารอบแบ่งกลุ่ม ถ้าเราทำได้ เราจะเดินหน้าไปทีละขั้น”
ปราสาทสายฟ้า คว้าแชมป์ไทยลีก ครั้งล่าสุด คือฤดูกาล 2018 ก่อนที่ซีซั่นนี้ มีโอกาสสูงที่จะกลับมาประสบความสำเร็จอีกครั้ง เมื่อสถานการณ์ปัจจุบัน นำเป็นจ่าฝูง โดยทิ้งห่างอันดับ 2 บีจี ปทุมฯ ถึง 10 คะแนน ขณะที่เหลืออีก 7 นัด นอกจากนี้ ยังอยู่ในเส้นทางฟุตบอลถ้วย 2 รายการ ทั้ง ช้าง เอฟเอ คัพ และ รีโว่ ลีกคัพ
“หลายปีที่ผ่านมา บุรีรัมย์ ไม่ได้คว้าแชมป์อะไร ดังนั้นในฤดูกาลนี้ เรามีความปรารถนาที่จะคว้าแชมป์ทุกรายการที่ลงสนาม แม้เราจะไม่ได้ผ่านการคว้าแชมป์ แต่นักเตะต่างได้รับประสบการณ์ และฤดูกาลนี้มันช่วยให้เรารักษาฟอร์มการเล่นในระดับสูง”
“เป้าหมายของผมคือการช่วยทีมค้าแชมป์สามรายการในประเทศในปีนี้ หลังจากนั้น ผมยังมีความปรารถนาที่จะเล่นต่างประเทศอีกสักครั้ง” ศศลักษณ์ ปิดท้าย
สำหรับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มีคิวบุกไปเยือน แดกู เอฟซี ในศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2022 รอบเพลย์ออฟ รอบ 3 วันที่ 15 มีนาคมนี้ โดยผู้ชนะคู่นี้ จะผ่านเข้าสู่รอบแบ่งกลุ่ม สาย F ไปอยู่กับ ชานตง ลูเนิง (จีน) , อุราวะ เรดส์ ไดมอนส์ (ญี่ปุ่น) และ ไลออน ซิตี้ เซลเลอร์ส (สิงคโปร์) ซึ่ง จ.บุรีรัมย์ ได้สิทธิ์เป็นเจ้าภาพด้วย