ธีระศักดิ์ โพธิ์อ้น กุนซือนครราชสีมา เอฟซี มองว่า เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว และ ณัฐพงษ์ สายริยา สองกองหลังของทีม ควรมีชื่อ ติดทีมชาติไทย ชุดเตรียมความพร้อมลุยศึกเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 แต่ขณะเดียวกัน ก็เคารพการตัดสินใจของ มาโน โพลกิ้ง ในฐานะเฮดโค้ช
สวาทแคท กำลังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม หลังเพิ่งเปิดบ้านชนะ การท่าเรือ เอฟซี 3-1 คว้าชัยนัดที่ 4 ติดต่อกันรวมทุกรายการ อย่างไรก็ตามลูกทีมของ โค้ชโจ กลับติดทัพช้างศึก คนเดียวเท่านั้น คือ อับดุลฮาฟิส บือราเฮง ในรายชื่อที่ส่งลงทะเบียนทั้งหมด 69 คน ก่อนตัดให้เหลือ 30 คนสุดท้าย เพื่อเข้าแคมฝึกซ้อม เตรียมทีมลุยศึกเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020
ขณะที่ โค้ชโจ แสดงความคิดเห็นถึงเรื่องนี้ว่า “เรื่องนักเตะในทีมที่ถูกเรียกไปทีมชาติ ผมอยู่กับลูกทีมผมทุกวัน ผมก็คิดว่าน่าจะมีนักเตะติดทีมชาติมากกว่านี้ แน่นอนว่า อาแว (อับดุลฮาฟิส) ควรติด เพราะเจ้าตัวผลงานดี และมีฟอร์มสม่ำเสมอในปีนี้ แต่ เฉลิมพงษ์ เอง เขาอาจอายุเยอะ แต่เขาจะมีประโยชน์หากเรียกไปช่วยทีมชาติแน่ หากเอาแค่ผลงานมาว่ากัน ผมมองว่าเขามีผลงานที่ดีในปีนี้ รวมถึงปีที่แล้ว และมีฟอร์มสม่ำเสมอ”
“ท้ายที่สุดแล้วการเป็นโค้ชทีมชาติ ผมว่าควรดูว่าใครฟอร์มดีต่อเนื่องในลีกครับ บางคนไม่ค่อยได้เล่นในลีก แต่กลับมีชื่อติดทีมไป อาจเป็นเพราะชื่อเสียงเก่าๆ ผมว่าโค้ชทีมชาติควรมองจากฟอร์มปัจจุบัน ทัวร์นาเมนต์นี้เป็นทัวร์นาเมนต์ที่เราต้องการแชมป์ ใครที่ดีที่สุดก็ควรจะได้ติดทีมไปครับ แต่ผมก็เคารพการตัดสินใจของมาโน่ เขาอาจมีตัวเลือกที่ดีกว่า แต่หากถามผม เฉลิมพงษ์ (เกิดแก้ว) หรือ ณัฐพงษ์ (สายริยา) ควรมีชื่อติดไปในรอบแรกสักหน่อยครับ”
โค้ชโจ กล่าวต่อ “ส่วนเรื่องโปรแกรมทีมชาติ ผมมองว่าหากเราจะตามสากลจริงๆ เราก็อาจจะมีเวลาน้อย แต่พวกชาติในยุโรปก็ไม่ได้เรียกนักเตะเข้าแคมป์ เพราะนักเตะมีความฟิตจากเกมลีกอยู่แล้ว แล้วโค้ชก็จะเลือกผู้เล่นที่เข้าระบบไป เพราะมีทั้งความฟิต และความสม่ำเสมอในการเล่น แล้วก็อาจมีการลงรายละเอียดในเรื่องแท็คติกนิดหน่อยครับ”
“สำหรับผมการเก็บตัว 10-20 วันมันไม่จำเป็นแล้วครับ” กุนซือหนุ่มรุ่นใหม่ กล่าวปิดท้ายในงานแถลงความพร้อม มีต เดอะ เพรส ก่อนพบกับ บีจี ปทุมฯ
สำหรับ นครราชสีมา เอฟซี เตรียมเปิดบ้านพบกับ บีจี ปทุมฯ ในศึกรีโว่ ไทยลีก วันที่ 10 พฤศจิกายนนี้ เวลา 18.00 น. ถ่ายทอดสดทาง ททบ.5 และ AIS PLAY
ส่วน ทีมชาติไทย อยู่ในกลุ่มเอ ร่วมกับ เมียนมา, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์ และผู้ชนะจากรอบคัดเลือก (บรูไน หรือ ติมอร์-เลสเต) โดยโปรแกรมการแข่งขันมีดังนี้ 5 ธันวาคม 2564 ผู้ชนะรอบคัดเลือก (บรูไน หรือ ติมอร์-เลสเต) พบ ไทย เวลา 16.30 น. 11 ธันวาคม 2564 ไทย พบ เมียนมา เวลา 19.30 น. 14 ธันวาคม 2564 ฟิลิปปินส์ พบ ไทย เวลา 16.30 น. และ 18 ธันวาคม 2564 ไทย พบ สิงคโปร์ เวลา 19.30 น.


