LIVE UPDATE พรีเมียร์ลีก : ลิเวอร์พูล - แมนฯ ยูไนเต็ด
พรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2021-2022 นัดตกค้าง เป็นการพบกันระหว่าง ลิเวอร์พูล เปิดรังเหย้า แอนฟิลด์ ทำศึกแดงเดือดพบกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เยอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือเจ้าบ้าน เลือกจัดทัพมาในระบบ 4-3-3 ด้วยการใช้สามประสานแนวรุกในแดนหน้าเป็น โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน และ หลุยส์ ดิอาซ
ด้านทีมเยือนของ ราล์ฟ รังนิค วางหมากมาในแผน 3-4-1-2 ใช้หน้าต่ำเป็น บรูโน แฟร์นันด์ส ทำเกมรุกร่วมกับคู่กองหน้าอย่าง แอนโธนี อีแลงก้า และ มาร์คัส แรชฟอร์ด ขณะที่ คริสเตียโน โรนัลโด้ ไม่มีชื่อในเกมนี้ เนื่องจากภรรยาเพิ่งสูญเสียลูกแฝดเพศชาย
ออกสตาร์ทเกมเพียงแค่ 5 นาทีเท่านั้น เป็นฝั่งของลิเวอร์พูลมาได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะที่ ซาดิโอ มาเน จ่ายทะลุช่องไปทางกราบขวาให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กระชากบอลไปจ่ายเข้าเขตโทษต่อให้ หลุยส์ ดิอาซ แปด้วยขวาจ่อ ๆ ไม่เหลือ ส่งให้หงส์แดงออกนำ 1-0
ถัดมาเพียงแค่นาทีที่ 10 ยูไนเต็ดต้องมาเสียกองกลางอย่าง ปอล ป็อกบา ซึ่งมีปัญหาบาดเจ็บบริเวณต้นขาขวาจนเล่นต่อไม่ไหว ทำให้ต้องส่ง เจสซี ลินการ์ด ลงมาเป็นตัวสำรองคนแรก
กระทั่งนาทีที่ 22 ลิเวอร์พูลมาบวกลูกสองเพิ่มได้อีก จากจังหวะที่ ซาดิโอ มาเน จ่ายทะลุช่องเข้าเขตโทษให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จับแล้วแปด้วยซ้ายตุงตาข่าย ช่วยให้เจ้าบ้านหนีห่างเป็น 2-0 ก่อนจะจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
ครึ่งหลังลิเวอร์พูลมาได้ประตูที่สามเพิ่มเติมอีก ในนาทีที่ 68 จากจังหวะที่ หลุยส์ ดิอาซ ไหลบอลทางกราบซ้ายเข้ากลางให้ ซาดิโอ มาเน ตวัดแปด้วยซ้ายอย่างเฉียบคม ส่งให้หงส์แดงงนำห่าง 3-0
ช่วงท้ายเกมนาทีที่ 85 ลิเวอร์พูลมาบวกลูกสี่ฉีกหนีไปอีก จากจังหวะที่ ดิโอโก้ โชต้า จ่ายทะลุช่องให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ โฉบมาชิพบอลแฉลบขาของ อารอน วาน-บิสซาก้า เล็กน้อยแล้วบอลย้อยเข้าไปซุกก้นตาข่าย เป็นลูกสองของเจ้าตัวในเกมนี้ด้วย ช่วยให้เจ้าบ้านทิ้งห่างถึง 4-0
จากนั้นไม่มีประตูเกิดขึ้นเพิ่มเติมอีก ทำให้สุดท้ายจบเกมเป็นลิเวอร์พูลถล่มเอาชนะไปได้แบบขาดลอยถึง 4-0 เก็บเพิ่มเป็น 76 คะแนน ขยับขึ้นไปรั้งจ่าฝูงแล้ว ส่วนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดอยู่อันดับ 6 ยังมี 54 คะแนนเท่าเดิม
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซอน เบ็คเกอร์; เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โฌแอล มาติป, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน; จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ (เจมส์ มิลเนอร์ น.86), ติอาโก้ อัลคันทารา (นาบี เกอิต้า น.80); โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน, หลุยส์ ดิอาซ (หลุยส์ ดิอาซ น.70)
สำรองไม่ได้ใช้ : อิบราฮิมา โกนาเต้, โจ โกเมซ, เคอร์ติส โจนส์, คอสตาส ซิมิคาส, ดีว็อก โอริกี้, ควีวีน เคลเลเฮอร์
ใบเหลือง - นาบี เกอิต้า น.86
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (3-4-1-2) : ดาบิด เด เคอา; ฟิล โจนส์ (เจดอน ซานโช น.46), แฮร์รี แม็คไกวร์, วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ; อารอน วาน-บิสซาก้า, ปอล ป็อกบา (เจสซี ลินการ์ด น.10), เนมานยา มาติช, ดิโอโก้ ดาโลต์; บรูโน แฟร์นันด์ส; มาร์คัส แรชฟอร์ด, แอนโธนี อีแลงก้า (ฮานนิบาล เมจบรี้ น.84)
สำรองไม่ได้ใช้ : เอริค ไบญี, ฆวน มาต้า, ดีน เฮนเดอร์สัน, อเล็กซ์ เตลลิส, สกอตต์ แม็คโทมิเนย์, อเลฮานโดร กานาร์โช
ใบเหลือง - ฮานนิบาล เมจบรี้ น.88, บรูโน แฟร์นันด์ส น.89
โปรแกรมถ่ายทอดสด
| TV station | True Premier Football 1 |
เช็คโปรแกรมถ่ายทอดสดทุกคู่ได้ทีนี่
วันและเวลาแข่งขัน
| เกม | ลิเวอร์พูล - แมนฯ ยูไนเต็ด |
| วันที่ | คืนวันอังคารที่ 19 เมษายน 2565 |
| เวลา | 2.00 น. (เช้ามืดวันพุธ) |
| สนาม | แอนฟิลด์ |
สภาพความพร้อมก่อนเกมของทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล อยู่ในสภาพทีมค่อนข้างพร้อม เหลือเพียงรอเช็คความฟิตของ ซาดิโอ มาเน รายเดียวเท่านั้น แนวรับใช้ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ จับคู่กับ โฌแอล มาติป แดนกลางนำทัพโดย จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ประสานงานกับ ฟาบินโญ และ ติอาโก้ อัลคันทารา แนวรุกเป็นสามประสาน หลุยส์ ดิอาซ, ดิโอโก้ โชต้า และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์
แมนฯ ยูไนเต็ด เกมนี้จะยังไม่มี ราฟาแอล วาราน, เฟร็ด, เอดินสัน คาวานี, สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ และ ลุค ชอว์ ที่มีอาการบาดเจ็บ รวมถึง คริสเตียโน โรนัลโด้ ไม่สามารถลงเล่นได้ เนื่องจากภรรยาเพิ่งสูญเสียลูกแฝดเพศชาย แต่น่าจะได้ ปอล ป็อกบา ฟิตกลับมาช่วยทีมได้ทัน แนวรับใช้ แฮร์รี แม็คไกวร์ จับคู่กับ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ แดนกลางใช้ เนมานยา มาติช ประสานงานกับ ปอล ป็อกบา และ บรูโน แฟร์นันด์ส แนวรุกใช้ เจดอน ซานโช, แอนโธนี อีแลงก้า และ มาร์คัส แรชฟอร์ด เป็นสามประสาน
11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ลิเวอร์พูล
อลิสซอน (GK)
อาร์โนลด์, มาติป, ฟาน ไดค์, โรเบิร์ตสัน
ฟาบินโญ, เฮนเดอร์สัน, ติอาโก้
ซาลาห์, โชต้า, ดิอาซ
แมนฯ ยูไนเต็ด
เด เคอา (GK)
วาน-บิสซาก้า, แม็คไกวร์, ลินเดอเลิฟ, เตลลิส
บรูโน, มาติช, ป็อกบา
อีแลงก้า, แรชฟอร์ด, ซานโช
ผลงานเกมที่ผ่านมา
ลิเวอร์พูล เอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3-2 ในศึกเอฟเอ คัพ ขณะที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านเอาชนะ นอริช ซิตี้ 3-2 ในเกมพรีเมียร์ลีก