โรแบร์โต้ มันชินี กุนซือทีมชาติ อิตาลี เล่าเหตุการณ์การพบ จานลูก้า วิอัลลี ครั้งสุดท้ายก่อนที่จะเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งในวัย 58 ปี
วิอัลลี ผู้ล่วงลับตรวจพบโรคมะเร็งตับอ่อนเป็นหนที่สองในปี 2021 หลังจากก่อนหน้านี้เขาเคยรักษาจนหายมาแล้วในเดือนเมษายน 2020 ซึ่งทำให้เขาสามารถกลับไปเป็นทีมงานของ มันชินี ชุดที่คว้าแชมป์ยูโร 2020 มาครองได้
ทว่าปลายปี 2022 มะเร็งร้ายกลับมาลุกลามอีกครั้งจนเขาต้องถอนตัวจากทีมชาติไปรักษาตัวและเสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 6 มกราคมที่ผ่านมา
มันชินี หนึ่งในคนที่มีความผูกพันกับ วิอัลลี มากที่สุดตั้งแต่สมัยเป็นนักเตะและร่วมงานกันในทีมชาติ ได้เปิดใจถึงการจากไปของเพื่อนรัก หลังจากเพิ่งเสีย ซินิซา มิไฮโลวิช ไปก่อนหน้านี้ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา
“เขาแทบจะไม่เหลือเรี่ยวแรงแล้วเสียงเขาแทบจะไม่มีแต่ยังมีสติอยู่มากเราได้พูดกันเกี่ยวกับทุกๆเรื่องเขาถามผมแม้กระทั่งเรื่องการพบปะในเดือนธันวาคมกับแข้งชุดเยาวชนเขาต้องการรู้ถึงพัฒนาการของโปรเจคต์” มันชินีเผยกับ
Gettyนอกจากนี้ยังมีบทสัมภาษณ์ที่ มันชินี ได้พูดถึง วิอัลลี กับ Il Corriere dello Sport
“ลูก้ายิ้มแย้มอยู่ตลอด เราหยอกล้อกัน ผมบอกเขาว่าเขาได้เงินมากกว่าผมอีกนะตอนอยู่ซามพ์โดเรีย ประธานสโมสรจ่ายให้เขามากกว่าผมอีก ไม่กี่วันหลังการจากไปของ ซินิซา ผมเสียน้องชายอีกคน เจ้าน้องชาย ผมชอบเรียกเขาแบบนั้น
“เราพบกันตอนอายุ 16 ปีและไม่เคยแยกจากกันอีกเลยการเดินทางทั้งหมดที่ผ่านมาด้วยกัน, ทีมเยาวชนอิตาลี, ทีมชาติชุดใหญ่, ซามพ์โดเรีย, ความเจ็บปวด, ชัยชนะและความพ่ายแพ้ค่ำคืนที่เวมบลีย์ครั้งหนึ่งเราร้องไห้ด้วยความเศร้าและขมขื่นอีกครั้งเราร้องไห้ด้วยความดีใจเราผูกพันกันโดยโชคชะตาก่อนเขาจากไปจานลูก้าคือที่สุดในหมู่พวกเราสุดยอดกองหน้า, คนที่กล้าหาญและสมบูรณ์แบบ”
Getty Images“ผมหวังว่าเขาจะได้เป็นประธานสโมสรซามพ์โดเรีย เขาได้สร้างประวัติศาสตร์ที่ไม่ธรรมดาตอนเป็นนักฟุตบอล นับเป็นเกียรติที่ได้เป็นเพื่อนของเขาในชีวิตจริงและเพื่อนร่วมทีมในฟุตบอล
“เขาทำให้ผมมีความสุข เขามีบทบาทสำคัญในการคว้าแชมป์ยูโร นักเตะรักเขา จานลูก้ามีความแข็งแกร่งและเขามอบความกล้าหาญที่เราไม่รู้ว่าเรามี ในแบบที่เขาใช้สู้กับอาการป่วย, การอยู่กับพวกเราเท่าที่เขาจะทำได้
“ผมต้องบอกลาน้องชายอีกคนแล้วหลังจากซินิซาด้วยความแข็งแกร่งของเขาผมจะเดินหน้าต่อไปเพื่ออุทิศให้กับเขาในสิ่งที่คล้ายกันซึ่งเป็นสิ่งที่เราใฝ่ฝันถึงในช่วงชีวิตนี้”
