Lukasz Piszczek wittert gegen Real Madrid die erneute Chance auf das WeiterkommenBongarts

ลูคัส พิสซ์เซ็ค และ มาร์เซล ชเมลเซอร์ : สองจิตวิญญาณนักสู้แห่งดอร์ทมุนด์

แคว้นรูห์ในประเทศเยอรมันมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานเกี่ยวกับถ่ายหิน ซึ่งมีส่วนสำคัญต่ออุตสาหกรรมพลังงานในเยอรมัน และดอร์ทมุนด์ก็เป็นเมืองที่สำคัญที่สุดในแคว้นนี้ ทำให้ที่นี่โดนทิ้งระเบิดอย่างหนักในระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง จนแทบทั้งเมืองกลายเป็นซากปรักหักพังและเถ้าถ่าน ถึงอย่างนั้น จิตวิญญาณของเมืองก็ยังไม่ถูกทำลาย

"จิตวิญญาณแห่งแคว้นรูห์ คือการทำงานหนักและกัดฟันสู้ แม้ว่าเหมืองจะปิดไปนานแล้ว และเหล็กกล้าไม่ได้มีความสำคัญขนาดนั้นอีกต่อไป คุณจะรู้สึกถึงเรื่องนั้นได้มากยิ่งขึ้น เมื่อเป็นนักเตะที่เน้นเล่นเกมรับ คุณจะได้รับเสียงชื่นชมเวลาเข้าปะทะ พอๆ กับตอนที่จักรยานอากาศเสียบสามเหลี่ยมมุมบน นั่นคือจิตวิญญาณแห่งแคว้นรูห์ สำหรับพวกเรา การทำงานหนักได้รับเสียงตอบรับที่ดีเสมอ" ฮันส์ โยอาคม วัตซ์เค กล่าวกับ Dazn 

สองนักเตะที่ได้รับความไว้วางใจมากที่สุด และรับใช้สโมสรมาอย่างยาวนานด้วยจิตวิญญาณแบบเดียวกัน คือ ลูคัส พิสซ์เซ็ค และ มาร์เซล ชเมลเซอร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ยุคที่ประสบความสำเร็จที่สุดในประวัติศาสตร์

ในช่วงหน้าร้อนของปี 2010 พิสซ์เซ็คย้ายจากแฮร์ธา เบอร์ลิน มาอยู่กับดอร์ทมุนด์ แบบไร้ค่าตัว และมีเป้าหมายจะสร้างความประทับใจให้โค้ชที่เรียกร้องมากที่สุดคนหนึ่งของวงการลูกหนังอย่าง เยอร์เกน คล็อปป์ มันคือการตัดสินใจที่ยากลำบาก เมื่อเขาอยากเล่นในตำแหน่งกองกลาง ซึ่งทางแฮร์ธาสัญญาว่าจะให้เขาเล่นตรงนั้น ขณะที่คล็อปป์พูดอย่างชัดเจนว่าเขาจะถูกใช้งานในตำแหน่งแบ็คขวา ทำให้พิสซ์เซ็คต้องปรึกษาคนรอบข้างอย่างหนัก

"ทุกคนที่ผมคุยด้วยบอกผมว่าให้ไปดอร์ทมุนด์ พวกเขามีโค้ชที่จะพัฒนาผมได้ ผมก็เลยทำตามที่พวกเขาบอก" กองหลังชาวโปแลนด์กล่าว

การต้องนั่งเป็นตัวสำรองไม่ใช่สิ่งที่เขาคาดหวัง เขาจึงต้องรีบเรียนรู้ในเรื่องต่างๆ และแย่งตำแหน่งตัวจริงมาจาก แพทริก โอโวโมเยลา ได้สำเร็จ เขาประสานงานกับ เนเวน ซูโบติช, มัตส์ ฮุมเมลส์ และชเมลเซอร์ จนสามารถพาสโมสรคว้าแชมป์ได้เมื่อจบฤดูกาล ในเดือนธันวาคม พวกเขาไม่แพ้ใครติดต่อกันถึง 15 นัด โดยชนะถึง 14 นัด แพ้นัดเดียว และเสียไปเพียง 7 ประตู

Piszczek BVB

ในวันที่ 30 เมษายน พวกเขาต้องชนะเอฟซี เนิร์นแบร์ก เพื่อการันตีการคว้าแชมป์ลีก และสองประตูในครึ่งแรกจากลูคัส บาร์ริออส และโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ทำให้พวกเขามีโอกาสสูงทีเดียวที่จะคว้าชัย

"มันคือช่วงเวลาที่ผมชอบที่สุด ถ้าคุณถามถึงการคว้าแชมป์ลีกเมื่อปี 2011 ช่วงเวลานั้นก็จะผุดขึ้นมาในใจทันที ผมมองไปที่เควิน โกรสคร็อยทซ์ เรายิ้มให้กัน แล้วผมก็หันไปมองสเวน เบนเดอร์ ที่อยู่ข้างๆ แล้วเราก็ยิ้มให้กัน เรารู้ว่าเราใกล้จะทำได้แล้ว นั่นคือช่วงเวลาที่ผุดขึ้นมาในใจทันที คุณจะเห็นความยินดีและโล่งใจในใบหน้าของพวกเขา แต่ก็ยังมีความร้อนรนด้วย ว่ามันเป็นเรื่องจริงใช่ไหม?" ชเมลเซอร์ ซึ่งมีส่วนสำคัญในทีมชุดแชมป์บุนเดสลีกา ด้วยการลงเล่นทั้ง 34 นัดกล่าว

ความสำเร็จดังกล่าวเริ่มต้นจากผู้จัดการทีมที่เปี่ยมด้วยพลังอย่างคล็อปป์ ที่ดูแลนักเตะเหมือนครอบครัว และทุ่มเทอย่างเต็มที่เพื่อเอาชนะคู่ปรับอย่างบาเยิร์น มิวนิค ได้อย่างยอดเยี่ยม

"เราผู้นำอย่างเยอร์เกน คล็อปป์ ซึ่งรวมทุกอย่างเข้าด้วยกันในช่วงเวลานั้น ทีม, โค้ช และสโมสร พวกเราไม่ใช่นักเตะมากพรสวรรค์ที่ใครๆ ก็คาดเอาไว้อยู่แล้วว่าจะทำได้สำเร็จ แต่พวกเราคือนักสู้ในสนาม ไม่ว่าคล็อปป์จะบอกอะไรพวกเรา เราก็พยายามจะนำสิ่งที่ฝึกซ้อมมาใช้จริงให้ได้มากที่สุด" ชเมลเซอร์กล่าว

ในฤดูกาลต่อมา พวกเขาได้แชมป์บุนเดสลีกาอีกสมัย และยังได้เดเอฟเบ โพคาล ด้วยการเอาชนะบาเยิร์น มิวนิค 5-2 ในรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งเลวานดอฟสกี้ทำแฮตทริก

"มันคือช่วงเวลาที่เยี่ยมยอด คุณอธิบายเป็นอย่างอื่นไม่ได้เลย"

Borussia Dortmund full-back Marcel SchmelzerGetty

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพิสซ์เซ็คและชเมลเซอร์ คือตำนานของสโมสร พวกเขาคือนักเตะที่มีจิตวิญญาณแห่งนักสู้เต็มเปี่ยม และไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมทั้งคู่ถึงได้เป็นขวัญใจแฟนบอลในซิกนัล อิดูนา พาร์ค

"พิสซ์เซ็คและชเมลเซอร์ คือตำนานตัวจริงของดอร์ทมุนด์ เพราะพวกเขาคือนักสู้ตัวจริง พวกเขาไม่ได้เล่นฟุตบอลแบบสวยงาม อย่างที่เราอยากเห็นในเกมฟุตบอล แต่ที่แคว้นรูห์ เราอยู่กับนักสู้ นั่นคือสิ่งที่ทำให้พิสซ์เซ็คและชเมลเซอร์มีความพิเศษ ทั้งคู่ทุ่มเทอย่างเต็มที่เพื่อสโมสร" แมนเฟรด ราคอฟสกี้ ประธานแฟนคลับดอร์ทมุนด์กล่าว

น้ำตาไหลอาบแก้มของพิสซ์เซ็ค ในเกมสุดท้ายที่เขาลงเล่นให้สโมสร ที่พวกเขาเป็นฝ่ายชนะแอร์เบ ไลป์ซิก 4-1 ในนัดชิงชนะเลิศ เดเอฟเบ โพคาล เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม เขาคว้าแชมป์บุนเดสลีกาได้ในฤดูกาลแรกของเขากับสโมสร และคู่ควรทุกประการที่จะอำลาด้วยถ้วยรางวัล หลังจบเกม แบ็คขวารายนี้ มอบชัยชนะให้เพื่อนร่วมทีมของชเมลเซอร์ ที่โดนอาการบาดเจ็บเล่นงานแทบจะตลอดทั้งฤดูกาล

หลังจากใช้เวลามากกว่า 10 ปีกับทีมเสือเหลือง พิสซ์เซ็คกลับไปอยู่กับสโมสรในประเทศบ้านเกิด เพื่อดูแลทีมในระดับเยาวชน ขณะที่ชเมลเซอร์ยังมีไฟที่จะสู้ต่อในชุดสีเหลืองดำ สโมสรที่เขาอยู่ตั้งแต่ยังเป็นเด็กจนเติบโตเป็นผู้ใหญ่ อย่างน้อยก็อีกหนึ่งฤดูกาล

ในฐานะพันธมิตร อิวอนิก และ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ยืนหยัดร่วมกันมากกว่าแค่ฟุตบอล

เรียนรู้เพิ่มเติมที่: gobeyondfootball.com

โฆษณา

ENJOYED THIS STORY?

Add GOAL.com as a preferred source on Google to see more of our reporting

0