Shinji Kagawa

"รู้จัก เข้าใจ และเสริมจุดแข็งของตัวเอง" คางาวะเล่าเคล็ดลับสำคัญของการเป็นนักเตะอาชีพ

คราวก่อนที่คุณมาอยู่กับทีม สนามซ้อมยังเป็นมินามิตสึโมริ ตอนนี้กลายเป็นไมชิมา คุณรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม รวมถึงคลิปเฮาส์ไหม ตอนที่คุณกลับมาอยู่ญี่ปุ่น?

สภาพแวดล้อมมันเยี่ยมมากๆ การกลับมาอยู่ญี่ปุ่น ผมรู้สึกว่าทุกๆ คน รวมถึงทีมแพทย์ขยันขันแข็งและทำงานเพื่อพวกนักเตะ แต่ในทางหนึ่ง พวกนักเตะก็ต้องเล่นด้วยความรับผิดชอบโดยไม่พึ่งพาสภาพแวดล้อมเหล่านี้

คุณพูดถึงทีมแพทย์ แต่มันก็จำเป็นใช่ไหมที่จะต้องสื่อสารกันด้วยภาษาที่เหมาะสม?

ใช่ นั่นเป็นเรื่องจริง เพราะผมไปอยู่ยุโรปมา ผมรู้สึกว่าทีมแพทย์ของญี่ปุ่นระดับสูงมาก ผมรู้สึกขอบคุณความทุ่มเทของพวกเขา ความใส่ใจในรายละเอียด และเหนือสิ่งอื่นใด ความมุ่งมั่นห่วงใยในตัวนักเตะ วิธีการรักษาที่ครอบคลุมของพวกเขาก็ช่วยได้มาก

ในเกมเปิดสนามเจลีกที่พบนีงาตะ ซึ่งเป็นเกมที่กลับมาญี่ปุ่นนัดแรก คุณได้ลงเล่นเป็นตัวสำรอง บอกให้เราฟังหน่อยว่ารู้สึกอย่างไรที่ได้ยืนบนสนามโยโดโกะ ซากุระ สเตเดียม ที่ทาสีชมพู และมีแฟนบอลคอยเชียร์อยู่

บรรยากาศในสนาม รวมถึงตรงหลังโกลมันยอดเยี่ยมมากๆ แน่นอน มันเป็นเรื่องปกติที่แฟนบอลและสนามจะพัฒนาและเปลี่ยนแปลงไปตลอด 10 กว่าปีที่ผ่านมา แต่ผมก็ซาบซึ้งใจมากๆ ผมอยากจะสร้างบรรยากาศของการเป็นผู้ชนะในบ้าน และพลังของกองเชียร์ก็เป็นเรื่องสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด ผมอยากจะอยู่ในทีมที่เล่นต่อหน้าแฟนบอลเต็มสนามในบ้านอยู่เสมอ

สนามเหย้าเก่าอย่าง ยันมาร์ สเตเดียม นางาอิ เป็นสนามที่ใหญ่มาก มันเลยยากที่จะมีความจุเต็มสนาม

ผมก็ชอบนางาอินะ บางครั้งผมก็อยากไปเล่นที่นั่นเหมือนกัน (หัวเราะ) มันเป็นสนามที่ผมมีความผูกพันส่วนตัวอยู่ ผมคงดีใจมากๆ ถ้าได้ไปเล่นที่นั่นอีกครั้ง

Shinji Kagawa 1

โยโดโกะ ซากุระ สเตเดียม เป็นสนามฟุตบอลโดยเฉพาะ คุณเลยรู้สึกได้ถึงบรรยากาศแบบในยุโรป

ผมรู้สึกว่าตอนที่ผมยืนอยู่ในสนาม บรรยากาศของเกมมันเยี่ยมมากๆ รวมถึงความกดดันและความร้อนแรงของกองเชียร์ มันกลายเป็นหนึ่งเดียวกันเมื่อแฟนบอลส่งเสียงเชียร์ได้เต็มที่ ผมคิดว่ามันจะกลายเป็นสนามที่ดียิ่งขึ้นไปกว่านี้ได้อีก

การได้เห็นคุณเล่นในสนาม มันทำให้ผมรู้สึกว่าคางาวะกลับมาอยู่กับเซเรโซแล้วจริงๆ

สำหรับผม แม้ว่าจะผ่านไป 12 ปีครึ่งแล้ว แต่ผมก็ยังคิดถึงแต่อนาคตนับตั้งแต่นี้ พูดตรงๆ ผมไม่ได้สนใจอดีต สิ่งที่สำคัญคือเราต้องสร้างต่อจากตรงนี้ มันเป็นเรื่องดีที่ได้สัมผัสประสบการณ์ของสนามใหม่ และเริ่มเดินก้าวแรกออกไป

คุณไปเล่นในยุโรปถึง 12 ปีครึ่ง อะไรคือสิ่งที่คุณรู้สึกมากที่สุดตอนไปเล่นต่างแดน

มันมีทั้งสิ่งที่ดีและสิ่งที่แย่ เหนือสิ่งอื่นใด เนื่องจากผมก็เป็นนักเตะต่างชาติ ผมไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากเอาชนะมันให้ได้ด้วยตัวเอง ไม่มีใครมาช่วยผม ผมต้องผ่านมันมาให้ได้ด้วยตัวเอง นั่นคือข้อแตกต่างที่สำคัญที่สุดเมื่อเทียบกับญี่ปุ่น มันมีแรงกดดันที่สูงมากจากแฟนบอลและสื่อ ผมไม่รู้เลยจนกระทั่งผมไปถึงที่นั่น ผมเรียนรู้อะไรมากมายจากยุโรป แต่มันก็ไม่ได้เกี่ยวกับการอยู่ยุโรปหรือญี่ปุ่น ผมก็แค่อยากจะเรียนรู้และเติบโตขึ้น

คุณต้องพิสูจน์ตัวเองในต่างแดนมากกว่าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ใช่ไหม?

คือมันไม่จำเป็นต้องไปเปรียบกับญี่ปุ่นนะ แต่ให้พูดง่ายๆ การแข่งขันมันจะเข้มข้นกว่าตอนเล่นในยุโรป ผู้เล่นต้องต่อสู้ในสภาพแวดล้อมที่หนักมากๆ ในทุกๆ วัน

Shinji Kagawa 2

ทุกปีคือการต่อสู้

ทุกวันคือการต่อสู้มากกว่า การฝึกซ้อมทุกวันคือการต่อสู้ ผมรู้สึกได้ถึงความตึงเครียดในระหว่างซ้อมทุกๆ วัน มีระดับที่สูงกว่า มีข้อเรียกร้องที่สูงกว่า แค่ความผิดพลาดครั้งเดียวก็เห็นได้อย่างชัดเจน ผมคิดว่ามันเป็นโลกที่คุณเสียจุดยืนได้ง่ายมากๆ ถ้าไม่เตรียมตัวให้ดีและพร้อมสู้ตลอดเวลา การจำเอาตัวรอด มันไม่มีทางอื่นนอกจากพิสูจน์ว่าคุณเป็นนักเตะที่ดีในการซ้อมแต่ละวัน ถ้าคุณอ่อนแอแม้เพียงนิดเดียว คุณก็เอาตัวไม่รอดแล้ว มันเลยเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องควบคุมความรู้สึกของตัวเองและต่อสู้ให้ดี

การมีประสบการณ์ในยุโรปมีผลต่อการเป็นตัวคุณเองในตอนนี้มากน้อยแค่ไหน

แน่นอน ประสบการณ์ที่ผมได้รับมาคือสิ่งสำคัญต่อตัวผมเองในอนาคต และผมอยากจะเล่นต่อไปโดยรักษาความรู้สึกแบบที่ผมรู้สึกในยุโรปเอาไว้

คุณมีคำแนะนำอะไรถึงผู้เล่นในเซเรโซ อคาเดมี ในปัจจุบัน ที่อยากจะประสบความสำเร็จในยุโรปเหมือนอย่างคางาวะบ้างไหม?

ถ้าคุณอยากจะต่อสู้ในโลกของมืออาชีพ คุณต้องยึดจุดแข็งของตัวเองเอาไว้ให้มั่น และพิสูจน์ตัวเองในสนาม มันง่ายๆ แค่นั้นแหละ ยิ่งคุณอยากจะประสบความสำเร็จในโลกมากเท่าไหร่ สิ่งสำคัญก็คือคุณต้องมีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าและฝึกซ้อมให้หนักมากเท่านั้น คุณต้องเตรียมใจให้ดี และสู้ต่อไปเรื่อยๆ

มันเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องสร้างรากฐานและแนวทางในระหว่างที่คุณยังเป็นเยาวชน สภาพจิตใจที่คุณพัฒนาขึ้นมาตอนเรียนมัธยมต้นและมัธยมปลายจะเป็นแรงสนับสนุนที่ดี แม้กระทั่งตอนที่คุณเป็นนักเตะอาชีพแล้ว

มันเป็นโลกที่โหดร้าย ผมอยากให้ทุกคนที่ตั้งเป้าสูงๆ พยายามอย่างเต็มที่ตั้งแต่ตอนนี้ คุณจะทุ่มเทลงไปได้มากแค่ไหน คุณจะฝึกซ้อมมากกว่าคนอื่นได้แค่ไหน คุณจะพัฒนาทักษะของตัวเอง และแสดงให้เห็นจุดเด่นของคุณในสนามได้มากแค่ไหน คุณต้องทำงานอย่างหนักในเรื่องเหล่านี้ เพราะมันเป็นโลกที่จะมีคนที่เก่งกว่าคุณอยู่เสมอ

ถึงแม้อะไรๆ จะไปได้ไม่ค่อยดีในช่วงมัธยมต้นและมัธยมปลาย แต่ผมก็อยากให้คุณสู้ต่อไปโดยไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เพราะมันเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับว่าคุณจะใส่ใจในรายละเอียดได้มากน้อยแค่ไหน คุณต้องก้าวไปทีละก้าว เพราะผมก็เคยอยู่ในจุดนั้นเหมือนกัน ผมไม่เคยคิดเลยว่าผมจะได้เล่นให้ดอร์ทมุนด์และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หรือได้สวมเสื้อเบอร์ 10 กับทีมชาติญี่ปุ่น แต่คุณไม่มีทางรู้หรอกว่าอะไรจะเกิดขึ้น

Shinji Kagawa 3

เล่าให้เราฟังหน่อยว่าเป้าหมายในปัจจุบันของคุณที่กลับมาเล่นให้เซเรโซ โอซาก้า อีกรอบ คืออะไร

ในระหว่างฝึกซ้อมและแข่งขัน เป้าหมายสูงสุดคือการได้แชมป์รวมถึงท็อปทรีในอนาคต แต่ก่อนจะไปถึงตรงนั้น มันก็ต้องกระบวนการมากมายระหว่างทาง

มันเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องฝึกซ้อมในแต่ละวันอย่างเหมาะสม คุณต้องไม่ลืมจุดนี้ ถ้าเราไม่โฟกัสกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า แม้จะมีเป้าหมายอยู่ในตัว แต่มันก็จะออกมาได้ไม่ดีนัก

อะไรคือแรงผลักดันให้คางาวะเล่นต่อไปเรื่อยๆ?

ผมเชื่อและรู้สึกอย่างแรงกล้าว่าผมยังเติบโตขึ้นไปและเป็นนักเตะที่ดีกว่านี้ได้อีก นั่นคือแรงผลักดันของผม ถ้ามันหายไปแล้ว ผมคิดว่ามันคงถึงเวลาที่ผมจะเลิกเล่น อย่างไรก็ดี ผมยังรู้สึกว่าผมจะเติบโตขึ้นไปและเป็นนักเตะที่ดีกว่านี้ได้อีก ผมยังมีศักยภาพที่ยอดเยี่ยมที่จะทำประโยชน์ให้ทีม ผมเลยยังตื่นเต้นกับอนาคต ความรู้สึกว่าอยากจะเติบโตขึ้นยังไม่เปลี่ยนไปนับตั้งแต่ผมเล่นฟุตบอล ตราบเท่าที่ผมยังมีชีวิตอยู่ ผมก็อยากจะรักษาความรู้สึกนั้นเอาไว้

โฆษณา

ENJOYED THIS STORY?

Add GOAL.com as a preferred source on Google to see more of our reporting

0