คุณเล่นให้อคาเดมีของเซเรโซ โอซาก้า มาตั้งแต่รุ่น U-15 เล่าให้เราฟังทีว่าทำไมถึงเลือกอคาเดมีของเซเรโซ
ก่อนจะขึ้น ป.6 ตอนเรียนประถม ผมเล่นฟุตบอลกับเบสบอลพร้อมกันมาตลอด จนกระทั่งผมคิดที่จะมาเล่นฟุตบอลต่อตอนเรียนมัธยม เซเรโซก็เข้ามาชวนผมไปร่วมฝึกซ้อม ในตอนนั้นผมยังไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเซเรโซ โอซาก้าเลย ผมก็เลยรู้สึกว่าผมอยากจะไปลองดูสักหน่อย
ในตอนนั้นมีอายุมุ เซโกะ, โทอิชิ ซูซูกิ และเรียวกะ อิชิโอะ ที่เป็นรุ่นพี่ผม 1 ปี คนที่ทำให้ผมประทับใจมากที่สุดคือ โทอิชิ ซูซูกิ ผมตะลึงไปเลย แม้ว่าในตอนนั้นผมแค่ไปลองทดสอบฝีเท้า ผมตื่นสนามและไม่รู้ว่าต้องทำอะไรบ้าง แต่เขาก็โวยใส่ผมตอนที่ผมไปเอาบอลช้า มันน่าประทับใจมากๆ นั่นคือเหตุผลสำคัญที่ทำให้ผมคิดว่ามันคงจะสนุกมากๆ ที่ได้เล่นในระดับสูงขนาดนี้ ต้องขอบคุณเซเรโซด้วยที่เข้ามาชวนผม ทำให้ผมได้เข้ามา
แสดงว่าคุณก็ถูกแมวมองทาบทามมา?
ใช่ คือผมก็ไม่รู้นะ แต่ดูเหมือนว่าจะมีแมวมองไปดูในเกมนั้น แล้วตัวแทนก็ติดต่อพ่อแม่ของผมมาเพื่อบอกว่า เซเรโซ โอซาก้า จะมาขอให้คุณไปลองซ้อมกับพวกเขา ผมก็เลยแบบว่า โอเค ไปกันเลย
มักจะโวยผมเสมอ แต่หลังจากนั้น เราก็คุยกันเยอะมาก เรากลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อไป ในที่สุดเราก็หยอกล้อเล่นกันได้ ในตอนแรกผมรู้สึกกลัวจริงๆ นะ แต่มันก็ช่วยให้ผมเติบโตขึ้นเยอะมากในปีนั้น ต้องขอบคุณปีนั้นที่ทำให้ผมขยับขึ้นไปเล่นในรุ่น U-18 ได้เป็นครั้งแรก

มันคือโอกาสแรกที่ทำให้คุณได้โชว์ฝีเท้าในฐานะแบ็คขวา
ผมเห็นด้วยเลย ในปีแรกของช่วงมัธยมต้น ผมเล่นเป็นเซ็นเตอร์แบ็ค แต่พอผมขึ้น ม.2 เซ็นเตอร์แบ็คในตอนนั้นเป็น อายุมุ กับเรียวกะ อิชิโอะ ซึ่งยากจะเจาะเข้าไปได้ บังเอิญว่าในตอนนั้นผู้เล่นแบ็คขวาที่อายุมากกว่าเราปีหนึ่งบาดเจ็บ ตำแหน่งก็เลยว่าง แล้วผมกับคุยะก็ได้ไปลองซ้อมกัน เหมือนกับวัดกันว่าใครจะชนะ? แล้วหลังจากนั้นผมก็ได้เล่นในตำแหน่งนั้นมาตลอด แทบจะไม่เคยได้เล่นเซ็นเตอร์แบ็คอีกเลย
การเล่นเป็นฟูลแบ็คเป็นประสบการณ์ที่ดีและมีประโยชน์มากๆ ในตอนนั้น สิ่งที่ได้ฝึกที่สุดคือเรื่องสภาพจิตใจ ผมคิดว่าในแง่ของเทคนิคมันมีความแตกต่างกันอยู่ระหว่างรุ่นเรากับรุ่นพี่ แต่ผมยอมแพ้ไม่ได้ ตอนที่ผมทำผิดพลาด ผมโดนด่า แต่ถึงแม้จะทำผิดพลาด แต่ผมก็พร้อมจะสู้ต่อไป ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ดีมากๆ
คุณเพิ่งพูดถึงการที่คุณเข้าร่วมฝึกซ้อม แต่ระดับของอคาเดมีเซเรโซนั้นสูงมากๆ
สูงมากๆ พูดจริงๆ นะ สำหรับสโมสรในต่างจังหวัด ก่อนหน้านี้ที่ผมชนะมาได้ไม่ใช่เพราะเทคนิคของผมเลย เป็นเรื่องของร่างกายล้วนๆ ทั้งพละกำลังและความเร็ว จนมาเข้ามัธยมต้น ผมรู้สึกว่าไม่มีอะไรที่ผมสู้เขาได้เลย อย่างแม้กระทั่งเรื่องร่างกายที่ผมมั่นใจมากๆ ผมก็ยังกระเด็นไปเลยตอนที่ชนกับอายุมุ ผมคิดว่าผมต้องแย่มากแน่ๆ ถ้าผมสู้ด้วยจุดแข็งที่ดีที่สุดของเขาไม่ได้ ผมรู้สึกได้ถึงอันตราย แต่กลับกัน มันก็ช่วยปลุกไฟในตัวผม แต่ความประทับใจแรกแต่อคาเดมีของเซเรโซของผมคือมันช็อคไปเลย
คุณได้เล่นใน J3 นัดแรกตอนเดือนมิถุนายนของ ม.5 นับตั้งแต่ตอนนั้นที่เล่นใน J3 ในฐานะทีมชุด U-23 คุณเริ่มคิดถึงทีมชุดใหญ่มากขึ้นกว่าเดิมรึเปล่า?
ใช่แล้ว ผมสนุกกับการได้เล่นใน J3 มากๆ จนผมมาคิดว่าผมอยากจะเล่นที่นี่ให้มากกว่านี้ ผมตื่นเต้นมากว่านี่มันคือโลกแบบไหนกันเนี่ย คือผมบาดเจ็บตอน ม.4 แต่แทนที่จะมามัวเศร้า ผมกลับคิดว่าผมอยากจะก้าวต่อไปเรื่อยๆ โดยไม่ยอมหยุด ซึ่งมันทำให้ในช่วง ม.ปลาย ผมได้เล่นในทีมชุด U-23 เป็นส่วนใหญ่ และกองหลังทุกคนในตอนนั้นก็เป็นนักเตะจากรุ่น U-18 กันหมดเลย มันเป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆ สำหรับผม
ช่วงที่คุณแพ้ไปหลายนัดมากๆ มันเป็นช่วงที่ยากลำบากจริงๆ
คือมันก็ไม่ใช่ว่าเราจะเก่งอะไรนัก และเราก็ทำอะไรไม่ได้จริงๆ นอกจากพยายามป้องกันอย่างสุดความสามารถ เรานักเตะรุ่น U-18 สี่คนพยายามช่วยกันอย่างเต็มที่
คุณพูดถึง อายุมุ เซโกะ บ่อยมาก ในฐานะนักเตะจากอคาเดมีเหมือนกัน ความประทับใจของคุณต่อเขาเป็นอย่างไร?
ความประทับใจแรกเลยก็คือผมกลัวเขา มันเหมือนกับว่ามีนักเตะแบบนี้อยู่ในตำแหน่งเดียวกันด้วยเหรอ? ในกลุ่มตัวแทนรุ่นนั้น อายุมุเป็นคนที่โดดเด่นที่สุดและเล่นได้ดีมากๆ ตอนที่ผมอยู่มัธยมต้น เขาเป็นนักเตะในฝันของผม ผมอยากจะเอาชนะเขาให้ได้ แต่ความชื่นชมในตัวเขามีมากกว่า เป้าหมายของผมคือการเป็นนักเตะแบบนั้นให้ได้
แม้แต่ตอนที่ผมได้เล่นไปเล่นในรุ่น U-18 อายุมุก็ยังพัฒนาอย่างต่อเนื่องและได้ขึ้นไปเล่นในรุ่น U-23 แต่ผมก็ตั้งเป้าเอาไว้แบบนั้นเหมือนกัน ผมดีใจมากๆ ตอนที่ผมถูกเรียกขึ้นไปเล่นในรุ่น U-23 ผมนึกว่าผมจะไล่ตามเขาทันแล้ว แต่กลายเป็นว่าอายุมุก็หนีไปอีกแล้ว เขาขึ้นไปเล่นทีมชุดใหญ่ ไปเป็นนักเตะอาชีพ ผมตามเขาไม่ทันเลย ผมไม่คิดว่าอายุมุจะรู้เรื่องนี้หรอกนะ แต่การมีอายุมุอยู่เป็นเรื่องสำคัญที่ทำให้ผมทำงานหนัก และพยายามที่จะไล่ตามเขาให้ทัน มันคือเหตุผลที่พอผมได้เล่นร่วมกับอายุมุเป็นครั้งแรกในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็คใน J1 ผมดีใจมากๆ
มันคือเกมเปิดฤดูกาล 2021?
ใช่เลย อายุมุบอกผมว่า ฉันไม่เคยคิดเลยว่าจะได้เล่นคู่กับนาย ตอนที่ผมอยู่ ม.ต้น อายุมุ เป็นเซ็นเตอร์แบ็ค ส่วนผมเป็นแบ็คขวา แต่พูดตรงๆ นะ ระดับเราแตกต่างกันมาก แต่หลังจากนั้นอีกไม่กี่ปี ผมดีใจสุดๆ ที่เราสองคนแย่งตำแหน่งในทีมชุดใหญ่ของเซเรโซมาได้ และได้ลงเล่นในเกม J1 ร่วมกัน ผมเคยคิดว่าผมจะไล่ตามอายุมุทันได้บ้างไหม แต่ตอนนี้ ผมก็เริ่มมาคิดแล้วว่าผมจะแซงอายุมุไปให้ได้
คือจากที่คุณเคยชื่นชม ก็กลายมาเป็นคู่แข่งแบบนั้นใช่ไหม?
แน่นอน ผมยังเคารพอายุมุและชื่นชมเขาอย่างมาก แต่ผมอยู่ในระดับเดียวกับเขาแล้ว ผมจะมาจบที่ชื่นชมเขาไปตลอดไม่ได้ ผมเริ่มมั่นใจในตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ และมีหลายๆ ครั้งที่ผมเริ่มคิดว่า ผมจะไม่ยอมแพ้แม้กระทั่งอายุมุ คุณต้องมีความรู้สึกที่พร้อมจะแย่งตำแหน่งเขา ไม่ใช่แค่ไล่ตามให้ทัน ตอนที่ผมบอกอายุมุม ผมดีใจมากที่ได้ยินเขาตอบกลับมาว่า ฉันก็จะพยายามอย่างดีที่สุดเช่นกัน มันเหมือนกับว่าอายุมุก็เริ่มจะยอมรับมันแล้วนิดหน่อย ในตอนนี้ อายุมุไปเล่นในต่างประเทศ แต่ผมก็คิดว่าสักวันผมจะทำให้ได้เช่นกัน ผมต้องพยายามทำให้ดีที่สุด

มันเป็นเรื่องดีมากๆ ที่มีรุ่นพี่ที่วัยใกล้ๆ กันเป็นนักเตะเยาวชนทีมชาติ
ผมโชคดี เช่นเดียวกับ อายุมุ, ฮินะ และโทอิชิ ทั้งสามคนโดดเด่นมากในรุ่นของพวกเขา มันเป็นสภาพแวดล้อมที่หนักมากๆ แต่ถ้ามองย้อนกลับไป ผมก็คิดว่าเราอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีมากๆ
อะไรคือแรงผลักดันให้คุณเล่นฟุตบอล?
ผมอยากจะแสดงตัวตนของผมออกมาผ่านทางการเล่นฟุตบอล อย่างที่ผมบอกไปก่อนหน้านี้ ผมอยากจะเป็นนักเตะที่มอบความกล้าให้คนมากมายผ่านการเล่นฟุตบอล
ผมได้รับข้อความจากแฟนบอลมากมายที่บอกว่าผมทำงานหนัก ทำให้พวกเขามีความกล้าหาญมากขึ้น มันทำให้ผมทำอะไรครึ่งๆ กลางๆ ไม่ได้ และยิ่งต้องพยายามให้มากกว่าเดิม
คนเหล่านี้ช่วยทำให้ผมมาถึงจุดนนี้ รวมถึงพ่อแม่ของผม ทีมงานในอคาเดมี คนท้องถิ่น และคนที่เพิ่งมาเชียร์ผมในช่วงหลังๆ มานี้ มันคือแรงผลักดันให้ผม ตอนที่ผมอยู่ใน J1 ผมรู้ตัวว่าถ้าผมพยายามทำให้เต็มที่ ผมจะเป็นแรงบันดาลใจให้คนได้มากมาย ความรู้สึกที่ว่าผมต้องทำไม่ใช่แค่เพื่อตัวเอง แต่เพื่อคนอีกมากมายด้วย คือแรงผลักดันในตัวผมตอนนี้
อคาเดมีของเซเรโซ โอซาก้า ที่คุณอยู่มา 6 ปี ทีมนั้นเป็นอย่างไรบ้าง?
ในตอนนั้น มันมีหลายตอนเลยที่หนักมากๆ แต่มันก็มีคุณค่า เพราะว่ามันหนัก ผมถึงได้พัฒนาขึ้น สภาพแวดล้อมมันดีสุดๆ เราได้เล่นหญ้าจริงตั้งแต่ทีมรุ่นจูเนียร์ ผมไม่คิดเลยว่าจะได้เจอสภาพแวดล้อมที่ดีขนาดนี้ เราเลยต้องทำให้ดีที่สุดภายใต้สภาพแวดล้อมแบบนี้
มันเป็นเรื่องสำคัญมากๆ ที่คุณต้องรู้สึกว่าคุณได้รับการสนับสนุนจากคนรอบข้าง และมีสภาพแวดล้อมแบบที่ช่วยให้คุณเติบโตได้ ผมคิดว่าหนึ่งในเรื่องที่ดีมากๆ ของระบบอคาเดมีคือคุณจะได้เห็นนักเตะอาชีพแบบใกล้ๆ เลย มันเลยง่ายมากๆ ที่จะสร้างแรงบันดาลใจและมีเป้าหมาย ผมคิดว่าเราต้องตอบแทนเซเรโซด้วยการทำงานให้หนัก และมีผู้เล่นจากอคาเดมีมาลงสนามให้มากขึ้น ผมคิดว่ามันทำให้เราต้องพยายามทำให้ดีที่สุด
คุณมีคำแนะนำอะไรสำหรับคนที่อยากจะเป็นนักเตะอาชีพบ้างไหม?
ผมคงไม่มีคำแนะนำอะไรในเรื่องฟุตบอล แต่คำขวัญของผมคือจริงจังและถ่อมตัวเสมอ ให้โทษตัวเองก่อนที่จะโทษคนอื่น ถ้าคุณมองทุกอย่างได้แบบเป็นกลาง ไม่ใช่แค่ในเรื่องฟุตบอล แต่รวมถึงเรื่องในชีวิตส่วนตัวด้วย คุณก็จะเลือกการกระทำที่เหมาะสมสำหรับตัวคุณเองได้เสมอ
คำถามสุดท้าย คุณจะท้าทายตัวคุณเองในอนาคตอย่างไร และคุณอยากทำอะไรในชีวิตฟุตบอลของคุณในอนาคต?
อย่างแรกคือการได้แชมป์กับเซเรโซ นั่นคือสิ่งที่ผมคิดมากที่สุด แทนที่จะคิดถึงการยกระดับตัวเอง ผมอยากจะโฟกัสไปที่ชัยชนะของทีมมากกว่า ผมหวังว่าผมจะมีโอกาสได้คว้าแชมป์ J1 ซึ่งคงจะเป็นช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์เลย นั่นคือเป้าหมายอันดับหนึ่งของผมในตอนนี้
แน่นอน ผมก็อยากจะมีโอกาสได้เล่นให้ทีมชาติญี่ปุ่นในโอลิมปิกที่ปารีสถ้าผมทำได้ดีกับเซเรโซ ผมคิดถึงเรื่องนั้นอยู่ด้วยเช่นกัน
ตอนนี้ผมยังไม่รู้สึกว่าอยากจะไปเล่นต่างประเทศ แต่ถ้าผมมีประสบการณ์เพิ่มขึ้นต่อจากนี้ ผมคิดว่าความรู้สึกของผมอาจจะเปลี่ยนไป ผมคิดว่ามันคงจะดีถ้าผมได้ท้าทายตัวเองในที่ไหนสักแห่งเช่นกัน
แต่ก่อนอื่นเลย ผมอยากจะได้แชมป์ นั่นคือสิ่งที่ดีที่สุด มากยิ่งกว่าเรื่องไหนๆ ผมอยากจะได้แชมป์จริงๆ ผมอยากจะตอบแทนเซเรโซด้วยการคว้าแชมป์มาครองให้ได้ที่เซเรโซ

