สุรีย์ สุขะGoal

ย้อนรอยตำนานไทยลีก : สุรีย์ สุขะ แข้งไทยคนแรกที่เกือบได้เล่นพรีเมียร์ลีก

เขาแบบฉบับแบ็คขวาจอมบุกที่หลายคนคุ้นเคยกันดีกับลีลาลากเลื้อยในสนามเป็นที่ชื่นชอบของแฟนบอลชาวไทยทั้งในระดับสโมสร และทีมชาติ เส้นทางลูกหนังของ สุรีย์ มีขึ้นมีลง และครั้งหนึ่งเขาเกือบไปถึงจุดที่ไม่เคยมีคนไทยทำได้มาก่อน นั่นคือการเล่นในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

“เปรม” สีรุย์ สุขะ เป็นชาวจังหวัดสกลนคร ที่หลงใหลเกมลูกหนังมาตั้งแต่วัยเด็กร่วมกับน้องชาย สุรัตน์ สุขะ ก่อนที่ทั้งคู่จะไต่ระดับจากฟุตบอลนักเรียนเมื่อเข้าสู่รั่วโรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา สถาบันลูกหนังขาสั้นชื่อดัง และต่อยอดสู่ทีมชาติไทยชุดอายุไม่เกิน 17 ปี ชุดชิงแชมป์โลก รอบสุดท้าย ที่ประเทศนิวซีแลนด์ แต่ไม่ได้ลงเล่น

อ่านบทความต่อด้านล่าง
สุรีย์ สุขะ

หลังจากนั้นเขาเริ่มต้นค้าแข้งอาชีพกับ ชลบุรี เอฟซี ที่สมัยนั้นยังเป็นโปรวินเชียลลีก ซึ่งถือเป็นผู้เล่นยุคแรกๆของสโมสรเลยก็ว่าได้ จากฝีเท้าที่วาดลวดลายในสนามยังต่อยอดให้ สุรีย์ ได้รับโอกาสบินไปค้าแข้งในเอสลีก สิงคโปร์ ยุคเฟื่องฟูกับสโมสรบาเลสเตียร์ ด้วยวัยเพียง 18 ปี ลงเล่นให้ทีมสำรองสลับกับทีมชุดใหญ่เป็นครั้งคราว

จากนั้น สุรีย์ กลับสู่อ้อมอก ชลบุรี เอฟซี อีกครั้ง และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นเขียนตำนานของตัวเอง เมื่อแสดงความยอดเยี่ยมในฐานะแบ็คจอมบุกที่มีมีทักษะลูกหนังแพรวพราวได้ใจแฟนบอล ฉลามชล ทั้งความคล่องตัวสูง และเปี่ยมด้วยความเร็ว ปฏิเสธไม่ได้ว่า เขาคือแบ็คขวาที่ดีที่สุดของเมืองไทยในเวลานั้น คุณภาพของเขาการันตีด้วยแชมป์โปรลีก ที่ช่วยให้ ฉลามชล เลื่อนชั้นไปเล่นไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก ได้สำเร็จ ด้วยความยอดเยี่ยมยังทำให้เขามีชื่อติดทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ครั้งที่ 23 ที่ ประเทศฟิลิปปินส์ ที่สามารถคว้าเหรียญทองมาครองอีกด้วย

จากแบ็คดาวรุ่ง ชลบุรี เขาต่อยอดสู่แบ็คขวาจอมบุกทีมชาติไทย ที่ติดทีมต่อเนื่อง โดยเฉพาะรายการ เอเชียนคัพ 2007 ที่ประเทศไทย เป็นเจ้าภาพร่วมกับเวียดนาม มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ที่ทำให้เขาถูกจับตามองทั่วเอเชีย กับลีลาการเติมเกมรุกที่จัดจ้านวิ่งไม่มีหมด พลิ้วไหวชนิดที่คู่แข่งจับทางแทบไม่ถูก

Kiatprawut, Suree, TeerasilGetty

ในปีเดียวกัน สุรีย์ ยังสร้างประวัติศาสตร์เมื่อกลายเป็นหนึ่งในแข้งไทยเซ็นสัญญาร่วมทีม แมนเชสเตอร์ซิตี้ ทีมดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ พร้อมกับ เกียรติประวุฒิ สายแวว และ ธีรศิลป์ แดงดา ซึ่งในตอนนั้นสโมสรเพิ่งถูก ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้าเทคโอเวอร์ พร้อมผลักดัน 3 แข้งไทยสู่แดนผู้ดี โดยทั้ง สุรีย์, เกียรติประวุฒิ สายแวว และ ธีรศิลป์ แดงดา ร่วมทดสอบฝีเท้าจน สเวน โกรัน อิริกสัน  ผู้จัดการทีมในเวลานั้นเกิดความประทับใจ และเดินทางมาเซ็นสัญญาที่เมืองไทยด้วยตัวเอง

แต่แม้ฝีเท้าจะไม่ธรรมดา แต่ สุรีย์ และเพื่อนไม่สามารถลงเล่นให้ต้นสังกัดได้เนื่องจากไม่ได้ใบอนุญาตทำงานหรือ เวิร์ค เพอร์มิต กลายเป็นเรื่องน่าเสียดาย เพราะจากคำบอกเล่าของ เกียรติประวุฒิ ยืนยันว่า สุรีย์ สามารถปรับตัวกับทีมได้เล่น และโชว์ฟอร์มในการซ้อมได้อย่างยอดเยี่ยมจนนึกว่าเป็นนักเตะบราซิลที่เล่นอยู่ในสนาม

ขณะที่ฟากของ สเวน โกรัน อิริกสัน รวมถึงเหล่าสตาฟฟ์โค้ชเอ่ยปากกับ สุรีย์ ว่า “เสียดายที่คุณเป็นคนไทย หากไม่ใช่คนไทย คุณคงได้เล่นพรีเมียร์ลีกแล้ว” เนื่องจากอันดับโลกของทีมชาติไทยในตอนนั้นไม่ได้อยู่ในเงื่อนไขของการขอ เวิร์ค เพอร์มิต โอกาสที่เราจะได้เห็นคนไทยคนแรกในพรีเมียร์ลีกจึงไม่เกิดขึ้น

สุรีย์ ถูกส่งให้สโมสรกราสฮอปเปอร์ซูริค ยืมตัวเวลา 1 ปี โดย แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จ่ายเงินเดือนให้เดือนละ 300,000 บาท รวม 8 เดือน ก่อนยกเลิกสัญญาในเวลาต่อมา ก่อนที่เขาจะย้ายกลับมาอยู่กับ ชลบุรี อีกครั้ง หลังกลับเมืองไทย เขายังคงเดินหน้าสานต่อความสำเร็จ เมื่อถูก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยักษ์ใหญ่ไทยลีกคว้าไปร่วมทัพ และยังได้ร่วมงานกับแฝดน้อง สุรัตน์ สุขะ ที่ช่วยพา ปราสาทสายฟ้า คว้าแชมป์ลีกสูงสุด 3 สมัย โดยเฉพาะปี 2015 ที่เขามีส่วนพา บุรีรัมย์ สร้างประวัติศาสตร์เป็นทีมแรกของเอเชีย ที่คว้า 5 แชมป์ในฤดูกาลเดียว

ด้วยวัยที่มากขึ้น สุรีย์ ย้ายไปเล่นกับอีกหลายสโมสรทั้ง อุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด, ราชบุรี มิตรผล เอฟซี, ก่อนสร้างความฮือฮาย้ายสู่ลีกล่างกับ เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด และถูกส่งต่อให้ สิงห์ระฆังทอง กาญจนบุรี เอฟซี ในศึกไทยลีก 3 ซึ่งเป็นสโมสรสุดท้ายในชีวิต เมื่อตัดสินใจประกาศแขวนสตั๊ดในปี 2020 ปิดฉากเส้นทางลูกหนังบนวัย 38 ปี...

สุรีย์ สุขะ
โฆษณา