เอ็นโซ มาเรสก้า กุนซือ เชลซี ชี้แจงสาเหตุที่ต้องเปลี่ยนตัวเร็ว 3 คนตั้งแต่ 20 นาทีแรกในเกมบุกพ่าย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-1
ทัพสิงห์บลูส์ ตกเป็นรองตั้งแต่นาทีที่ 5 หลังจาก โรเบิร์ต ซานเชซ ไปเตะสกัด ไบรอัน เอ็มเบอโม ในจังหวะหลุดเดี่ยว ทำให้ทีมตกเป็นรองก่อนจะโดนสองประตูในครึ่งแรกจาก บรูโน แฟร์นันด์ส และ คาเซมิโร แม้ท้ายเกม เทรเวอห์ ชาโลบาห์ จะโขกไล่มาแต่ไม่ทันการณ์พ่ายเป็นเกมที่สองติดต่อกันทุกรายการ และนัดที่สองในพรีเมียร์ลีก
หนึ่งในเรื่องที่ มาเรสก้า โดนวิจารณ์หนักคือหลังจากเหลือ 10 คนเขาเลือกถอดแนวรุกอย่าง เปโดร เนโต้ และ เอสเตเวา วิลเลียน ออก ตามด้วย โคล พาลเมอร์ ในนาที 20 แต่เจ้าตัวชี้แจงว่าเป็นสถานการณ์ที่เลี่ยงไม่ได้
“สำหรับผมแล้ว มันง่ายมากเมื่อมองจากมุมที่ผ่านไป 3 นาที มันเป็นงานยากด้วยใบแดงที่กลายเป็นเรื่องยากลำบาก ไม่ใช่แค่กับเชลซี มันเป็นเรื่องยากสำหรับไม่ว่าสโมสรใดก็ตาม แน่นอนเราควรจะเริ่มเกมให้ดีกว่านี้, จากนั้นมีใบแดงที่ทำให้เรามีโอกาสกลับมาสู่เกม เรามี 2-3 โอกาสในกรอบเขตโทษ แต่เกมมันเปลี่ยนไปหลังจากใบแดง ทุกอย่างที่เราวางแผนมา มันใช้ไม่ได้อีกต่อไป” มาเรสก้า ตอบประเด็นเลือกเปลี่ยนเกมเร็วหลังโดนใบแดงตั้งแต่ 5 นาทีแรก
“นั่นเป็นเหตุผลที่เราเปลี่ยน เปโดร (เนโต้) และ เอสเตเวา (วิลเลียน) เพราะพวกเขามักจะบุกด้วยแนวรุห้าคน และเราเหลือเกมป้องกันสี่คน เราเล่นเกมรับสี่คนได้นะถ้า 11 ต่อ 11 แต่ 10 คนรับมือพวกเขา ผมคิดว่าเราต้องเล่นเกมรับด้านกว้าง ดังนั้น เราตัดสินใจที่จะเล่นหลังห้าคน นั่นคือเหตุผล
“อีกเรื่อง การ์นา เขาพร้อมลงสนาม แต่หลังจากนั้น เวส (โฟฟานา) ขอเปลี่ยนตัวออก เพราะเขามีอาการล้า ดังนั้นเราจึงต้องเปลี่ยน และตัดสินใจเลือก ไทริค ไอเดียแรกของเราคือการให้ การ์นาโช ลงสนาม”
หลังจากนั้น เขาถูกถามในจังหวะตัดฟาวล์ของ โรเบิร์ต ซานเชซ ว่าเขาจะเลือกให้ทีมตามหลังแค่ประตูเดียว แต่ยังเหลือ 11 คนเท่ากันหรือไม่
“มันเป็นหนทางที่ดีที่สุด เพราะเรายังเหลืออีก 95 นาทีให้เล่น ผมคิดว่าแม้แต่ โรเบิร์ต เองก็รับรู้เรื่องนั้นดี แต่มันเป็นเรื่องยากเพราะเขาต้องตัดสินใจใน 1-2 วินาที ดังนั้นมันยาก แต่ถ้าคุณถามผม ผมขอเลือกตามหลัง 1 ประตูหลังผ่านสามนาที ดีกว่ามีคนน้อยกว่าหลังผ่านสามนาที”




