LIVE UPDATE พรีเมียร์ลีก : ลิเวอร์พูล - แมนฯ ยูฯ
พรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2023-24 คู่เอกประจำสัปดาห์ที่ 17 เป็นการพบกันระหว่าง ลิเวอร์พูล เปิดรังเหย้า แอนฟิลด์ ทำศึกแดงเดือดพบกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เยอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือเจ้าบ้าน เลือกจัดทัพมาในระบบ 4-3-3 ด้วยการใช้สามประสานแนวรุกในแดนหน้าเป็น โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดาร์วิน นูนเญซ และ หลุยส์ ดิอาซ
ด้านทีมเยือนของ เอริค เทน ฮาก วางหมากมาในแผน 4-2-3-1 ใช้หน้าเป้าเป็นราสมุส ฮอยลุนด์ทำเกมรุกร่วมกับ อันโตนี,สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ และอเลฮานโดร การ์นาโช
ตลอดทั้ง 90 นาที เป็นฝั่งของลิเวอร์พูลที่ครองบอลบุกได้เหนือกว่าอย่างชัดเจน แต่ก็ไม่สามารถเจาะแนวรับของยูไนเต็ดได้เลย โดยในช่วงทดเวลานาทีที่ 90+4 ทีมเยือนต้องเหลือสิบคนด้วย เมื่อทาง ดิโอโก้ ดาโลต์ ไปโวยใส่ผู้ตัดสิน จนทำให้จากที่โดนใบเหลืองไปก่อน ก็ถูกควักใบแดงต่อเนื่องภายในไม่กี่วินาทีไล่ออกไปเลย
สุดท้ายเกมนี้ก็ไม่มีประตูเกิดขึ้นแต่อย่างใด ทำให้จบลงด้วยผลเสมอ 1-1 แบ่งกันไปทีมละแต้ม โดยลิเวอร์พูลรั้งอันดับ 2 มีเพิ่มเป็น 38 แต้ม ส่วนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดอยู่อันดับ 7 มีเพิ่มเป็น 28 แต้ม




รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล(4-3-3) : อลิสซอน เบ็คเกอร์; เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, อิบราฮิมา โกนาเต้, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, คอสตาส ซิมิคาส; โดมินิค โซโบสไล (โจ โกเมซ น.61), วาตารุ เอนโด, ไรอัน กราเฟนแบร์ก (โกดี้ คักโป น.61); โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดาร์วิน นูนเญซ (ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ น.78), หลุยส์ ดิอาซ (เคอร์ติส โจนส์ น.78)
สำรองไม่ได้ใช้ : อาเดรียน, เจมส์ แม็คคอนเนลล์, ควีวีน เคลเลเฮอร์, จาเรลล์ ควอนซาห์, คอเนอร์ แบรดลีย์
ใบเหลือง -ดาร์วิน นูนเญซ น.21, วาตารุ เอนโด น.45+2
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด(4-2-3-1) : อ็องเดร โอนานา;ดิโอโก้ ดาโลต์, ราฟาแอล วาราน, จอนนี อีแวนส์, ลุค ชอว์; ค็อบบี้ ไมนู (ฮานนิบาล เมจบรี้ น.82), โซฟียาน อัมราบัต; อันโตนี (ฟากุนโด้ เปลิสตรี น.82), สกอตต์ แม็คโทมิเนย์, อเลฮานโดร กานาร์โช (มาร์คัส แรชฟอร์ด น.71); ราสมุส ฮอยลุนด์
สำรองไม่ได้ใช้ : อัลตาย บายินดีร์, เซร์คิโอ เรกีลอน, อารอน วาน-บิสซาก้า, ดอนนี ฟาน เดอ เบ็ค, แดน กอร์, วิลลี คัมบวาลา
ใบเหลือง - ค็อบบี้ ไมนู น.27, โซฟียาน อัมราบัต น.35, ลุค ชอว์ น.88, มาร์คัส แรชฟอร์ด น.90+2, ดิโอโก้ ดาโลต์ น.90+4 (สองใบรวด)
ใบแดง - ดิโอโก้ ดาโลต์ น.90+4
โปรแกรมถ่ายทอดสด
| TV station | True Premier Football 1 True Premier Football 2 True 4K Ultra HD |
เช็คโปรแกรมถ่ายทอดสดทุกคู่ได้ทีนี่
วันและเวลาแข่งขัน
| เกม | ลิเวอร์พูล - แมนฯ ยูไนเต็ด |
| วันที่ | วันอาทิตย์ที่ 17 ธันวาคม 2566 |
| เวลา | 23.30 น. |
| สนาม | แอนฟิลด์ |
สภาพความพร้อมก่อนเกมของทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล เกมนี้จะยังไม่มี ติอาโก้ อัลคันทารา, แอนดี้ โรเบิร์ตสัน, สเตฟาน บายเซติช, ดิโอโก้ โชต้า และ โฌแอล มาติป ที่มีอาการบาดเจ็บ ขณะที่ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ต้องรอเช็คความฟิต แนวรับคาดว่าจะใช้ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ จับคู่กับ อิบราฮิมา โกนาเต้ แดนกลางนำทัพโดย วาตารุ เอนโด ประสานงานกับ โดมินิค โซโบสไล และ ไรอัน กราเฟนแบร์ก แนวรุกใช้สามประสาน หลุยส์ ดิอาซ, ดาร์วิน นูนเญซ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์
แมนฯ ยูไนเต็ด มีปัญหาในการจัดทัพพอสมควรเมื่อจะไม่มี ไตเรลล์ มาลาเซีย, คาเซมิโร, ลิซานโดร มาร์ติเนซ, เมสัน เมาท์, คริสเตียน อีริคเซน, อ็องโตนี มาร์กซิยาล, อาหมัด ดิยัลโล และ แฮร์รี แม็คไกวร์ ที่มีอาการบาดเจ็บ ขณะที่ บรูโน แฟร์นันด์ส ติดโทษแบน แต่ข่าวดีคือจะได้ มาร์คัส แรชฟอร์ด และ ลุค ชอว์ ฟิตกลับมาลงสนามได้ทันเวลา แนวรับคาดว่าจะใช้ ราฟาแอล วาราน จับคู่กับ ลุค ชอว์ แดนกลางใช้ ค็อบบี ไมนู ประสานงานกับ โซฟียาน อัมราบัต และ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ แนวรุกใช้ อเลฮานโดร การ์นาโช, มาร์คัส แรชฟอร์ด และ ราสมุส ฮอยลุนด์ คอยล่าตาข่าย
11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ลิเวอร์พูล
อลิสซอน (GK)
เทรนต์, โกนาเต้, ฟาน ไดค์, ซิมิคาส
โซโบสไล, เอนโด, กราเฟนแบร์ก
ซาลาห์, นูนเญซ, ดิอาซ
แมนฯยูไนเต็ด
โอนานา (GK)
วาน-บิสซาก้า, วาราน, ชอว์, ดาโลต์
ไมนู, แม็คโทมิเนย์, อัมราบัต
แรชฟอร์ด, ฮอยลุนด์, การ์นาโช
ผลงานเกมที่ผ่านมา
ลิเวอร์พูล บุกพ่าย แซงต์-ชิลลัวส์ 1-2 ในยูโรป้า ลีก ขณะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด พ่ายคารังต่อ บาเยิร์น มิวนิค 0-1 ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
บทวิเคราะห์
ฤดูกาลนี้ ลิเวอร์พูล ชนะรวดทั้ง 11 นัดในการเล่นที่ แอนฟิลด์ โดยเป็นในพรีเมียร์ลีกถึง 7 นัด โดยการพบกันครั้งล่าสุดเมื่อฤดูกาลที่แล้วที่สนามแห่งนี้เป็นเจ้าถิ่นที่ถล่มขาดลอยถึง 7-0
ขณะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้ถึง 3 จาก 4 นัดหลังสุด และทำประตูไม่ได้เลยในสองเกมล่าสุด นอกจากนี้ยังจะไม่มีกองกลางตัวความหวังอย่าง บรูโน แฟร์นันด์ส ในเกมนี้ด้วย
นอกจากนี้สถิติยังชี้ชัดว่าปีศาจแดงมักทำผลงานได้ไม่ดีนักในการมาเยือนคู่ปรับอย่างหงส์แดง โดยพวกเขาไม่ชนะที่แอนฟิลด์ มาตั้งแต่เดือนมกราคมปี 2016 และเสียไปถึง 18 ประตูจาก 5 นัด นับตั้งแต่วันนั้น
สกอร์ที่คาด : ลิเวอร์พูล 3-1 แมนฯ ยูไนเต็ด
