แคเมอรูน 3-3 เซอร์เบีย
(1-0 ฌอง-ชาร์ลส์ กาสเตลเลตโต้ น.29, 1-1 สตราฮินยา พาฟโลวิช น.45+1, 1-2 เซอร์เก มิลินโควิช-ซาวิช น.45+3, 1-3 อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช น.53, 2-3 แว็งซองต์ อาบูบาการ์ น.63, 3-3 เอริค มักซิม ชูโป-โมติง น.66)
Backpageคู่แรกในช่วง 17.00 น. เป็นเกมที่สองของกลุ่มจี ระหว่าง แคเมอรูน ลงเล่นที่สนามอัล จานูบ สเตเดียมในเมืองอัล วาคราห์ ของเจ้าภาพกาตาร์ พบกับ เซอร์เบีย
เริ่มเกมมาเป็นฝั่งของแคเมอรูมาได้ประตูขึ้นนำ ในนาทีที่ 29 จากลูกเตะมุมฝั่งซ้ายที่ ปิแอร์ กุนเด้ เปิดมาเสาแรกให้ นิโกลาส์ เอ็นคูลู โหม่งเช็ดไปเสาไกลต่อให้ ฌอง-ชาร์ลส์ กาสเตลเลตโต้ แปด้วยขวาจ่อ ๆ ไม่เหลือ ส่งให้ทีมจากแอฟริกาออกนำ 1-0
ทว่าช่วงทดเวลานาทีที่ 45+1 เซอร์เบียมาได้ประตูตีเสมอ จากลูกฟรีคิกที่ ดูซาน ทาดิช เปิดเข้าเขตโทษให้ สตราฮินยา พาฟโลวิช โหม่งตุงตาข่าย ทำให้สกอร์ขยับมาเท่ากันที่ 1-1
ต่อเนื่องด้วยช่วงทดเวลานาทีที่ 45+3 เซอร์เบียมาได้ประตูพลิกขึ้นนำ จากจังหวะที่ อันดริยา ซิฟโควิช ไหลบอลให้ เซอร์เก มิลินโควิช-ซาวิช ซัดด้วยซ้ายหน้าเขตโทษอย่างเฉียบคม ช่วยให้ทีมจากยุโรปแซงนำ 2-1 และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
ครึ่งหลังเซอร์เบียมาบวกลูกสามเพิ่มได้อีก ในนาทีที่ 53 จากจังหวะที่ อันดริบา ซิฟโควิช ไหลบอลในเขตโทษให้ อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช ตวัดแปด้วยขวาอย่างง่ายดาย ส่งให้ทีมยุโรปนำ 3-1
แต่แล้วนาทีที่ 63 แคเมอรูนก็มาได้ประตูตีตึ้น จากจังหวะที่ ฌอง-ชาร์ลส์ กาสเตลเลตโต้ วางบอลยาวให้ แว็งซองต์ อาบูบาการ์ ลากหลุดแตะบอลหลอก นิโกลา มักซิโมวิช ก่อนจะงัดข้ามหัว วานยา มิลินโควิช-ซาวิช เข้าไปอย่างเหนือชั้น ทำให้ทีมจากแอฟริกาไล่มาเป็น 2-3
ถัดมานาทีที่ 66 แคเมอรูนเป็นฝ่ายตามตีเสมอได้บ้างเช่นกัน จากจังหวะที่ แว็งซองต์ อาบูบาการ์ ไหลบอลทางกราบขวาเข้าเขตโทษให้ เอริค มักซิม ชูโป-โมติง แปด้วยซ้ายระยะเผาขนตุงตาข่าย ทำให้สกอร์กลับมาเท่ากันอีกครั้งที่ 3-3
จากนั้นไม่มีประตูเกิดขึ้นเพิ่มเติมอีก ทำให้สุดท้ายจบเกมด้วยผลเสมอแบบสุดมัน 3-3 แบ่งกันไปทีมละแต้ม
เกาหลีใต้ 2-3 กานา
(0-1 โมฮัมเหม็ด ซาลิซู น.24, 0-2 โมฮัมเหม็ด คูดุส น.34, 1-2 โช คยู-ซอง น.58, 2-2 โช คยู-ซอง น.61, 2-3 โมฮัมเหม็ด คูดุส น.68)
Gettyคู่ที่สองในช่วง 20.00 น. เป็นเกมที่สองของกลุ่มเอช ระหว่าง โปรตุเกส ลงเล่นที่สนามเอดูเคชั่น ซิตี้ สเตเดียม ในเมืองอัล รายยาน ของเจ้าภาพกาตาร์ พบกับ กานา
ครึ่งแรกดำเนินมาจนถึงนาทีที่ 24 เป็นฝั่งของกานาจัดการยิงประตูขึ้นนำ จากลูกฟรีคิกทางกราบซ้ายที่ จอร์แดน อายิว เปิดเข้าเขตโทษแล้วแนวรับเกาหลีใต้สกัดกันไม่ขาดไปเข้าทางโมฮัมเหม็ด ซาลิซู หวดด้วยซ้ายระยะเผาขนไม่เหลือ ส่งให้ทัพดาวดำออกนำ 1-0
ถัดมานาทีที่ 34 กานาบวกลูกสองเพิ่มได้อีก จากจังหวะที่ จอร์แดน อายิว เปิดบอลทางกราบซ้ายเข้าเขตโทษให้โมฮัมเหม็ด คูดุส โฉบมาโหม่งเช็ดบาง ๆ ตุงตาข่าย ช่วยให้ทีมจากแอฟริกาหนีห่างเป็น 2-0และจบ 45 นาทีแรกด้วยสกอร์นี้
ครึ่งหลังเกาหลีใต้มาได้ประตูตีไข่แตก ในนาทีที่ 58 จากจังหวะที่ อี คัง-อิน เปิดบอลทางกราบซ้ายเข้าเขตโทษให้ โช คยู-ซอง โฉบมาโหม่งอย่างเด็ดขาด ทำให้โสมขาวไล่มาเป็น 1-2
ต่อเนื่องด้วยนาทีที่ 61 เกาหลีใต้มาได้ประตูตีเสมอ จากจังหวะที่ คิม จิน-ซู เปิดบอลทางสุดเส้นหลังฝั่งซ้ายเข้าเขตโทษให้ โช คยู-ซอง คนเดิมเทกตัวโหม่งตุงตาข่าย เป็นลูกสองของเจ้าตัวในเกมนี้ด้วย และช่วยสกอร์ขยับมาเท่ากันที่ 2-2
แต่แล้วนาทีที่ 68 กานาก็มาได้ประตูขึ้นนำอีกครั้ง จากจังหวะที่กีโดออน เมนซาห์ ไหลบอลทางกราบซ้ายเข้าเขตโทษให้ อินญากี้ วิลเลียมส์ แปด้วยขวาโดนเหลี่ยมไม่ดีแต่ยังปลิ้นไปเข้าทาง โมฮัมเหม็ด คูดุส ตวัดยิงด้วยซ้ายไม่เหลือ เป็นลูกสองของเจ้าตัวในเกมนี้ด้วย ส่งให้ทัพดาวดำนำ 3-2
จากนั้นไม่มีประตูเกิดขึ้นเพิ่มเติมอีก ทำให้สุดท้ายจบเกมเป็นกานาชนะไป 3-2 เก็บสามแต้มพร้อมขึ้นไปรั้งอันดับ 2 ของกลุ่มเอช ส่วนเกาหลีใต้ยังมีแค่แต้มเดียว อยู่อันดับ 4 สุดท้ายของกลุ่มเอช ซึ่งทั้งสองทีมยังต้องลุ้นเข้ารอบในเกมต่อไป
บราซิล 1-0 สวิตเซอร์แลนด์
(1-0 คาเซมิโร น.83)
Getty Imagesคู่ที่สามในช่วง 23.00 น. เป็นเกมที่สองของกลุ่มจี ระหว่าง บราซิล ลงเล่นที่สนามสเตเดียม 974 ในกรุงโดฮา เมืองหลวงของเจ้าภาพกาตาร์ พบกับ สวิตเซอร์แลนด์
ครึ่งแรกสกอร์ยังเสมอกันอยู่ 0-0 กระทั่งครึ่งหลังนาทีที่ 66 ฝั่งของบราซิลส่งบอลเข้าไปตุงตาข่าย จากจังหวะที่ คาเซมิโร จ่ายทะลุช่องให้ วินิซิอุส จูเนียร์ ลากหลุดไปเอี้ยวตัวแปด้วยขวาเข้าไป ทว่ากลับโดน VAR ริบประตู เพราะย้อนไปให้เป็นลูกล้ำหน้าตั้งแต่จังหวะก่อนหน้านี้ที่ ริชาร์ลิซอน เข้าไปเล่นบอลแล้วนั่นเอง
และแล้วช่วงท้ายเกมนาทีที่ 83 บราซิลก็มาพังประตูขึ้นนำจนได้ จากจังหวะที่ โรดรีโก้ แปะบอลให้ คาเซมิโร วอลเลย์ด้วยขวาแฉลบตัวของ มานูเอล อคานจี แล้วพุ่งเสียบตาข่ายอย่างสวยงาม ส่งให้อดีตแชมป์ 5 สมัยออกนำ 1-0
จากนั้นไม่มีประตูเกิดขึ้นเพิ่มเติมอีก ทำให้สุดท้ายจบเกมเป็นบราซิลชนะไป 1-0 เก็บ 6 แต้มเต็มจากการชนะรวดสองนัด ตีตั๋วผ่านเข้ารอบ 16 ทีมแน่นอนแล้วเป็นทีมที่สองต่อจากฝรั่งเศส
โปรตุเกส 2-0 อุรุกวัย
(1-0 บรูโน แฟร์นันด์ส น.54, 2-0 บรูโน แฟร์นันด์ส น.90+3)
Gettyคู่ปิดท้ายในช่วง 2.00 น. เป็นเกมที่สองของกลุ่มเอช ระหว่าง โปรตุเกส ลงเล่นที่สนามลูเซล สเตเดียม ในเมืองลูเซล ของเจ้าภาพกาตาร์ พบกับ อุรุกวัย
ครึ่งแรกสกอร์ยังเสมอกันอยู่ 0-0กระทั่งครึ่งหลังเป็นฝั่งของโปรตุเกสมาได้ประตูขึ้นนำ ในนาทีที่ 54 จากจังหวะที่ บรูโน แฟร์นันด์ส เปิดบอลทางกราบซ้ายเข้าเขตโทษให้ คริสเตียโน โรนัลโด้ โฉบขึ้นไปโหม่งแม้ว่าจะไม่โดน แต่บอลก็ลึกเข้าประตูไปเลย ส่งให้แชมป์ยูโร 2016 ออกนำ 1-0
ช่วงทดเวลานาทีที่ 90+3 ผู้ตัดสินเช็ค VAR จังหวะที่ บรูโน แฟร์นันด์ส เตะบอลไปโดนมือของ โฮเซ คิเมเนซ ที่ล้มตัวขวาง ก่อนจะให้จุดโทษแก่โปรตุเกส ซึ่งก็เป็น บรูโน แฟร์นันด์ส รับหน้าที่สังหารไม่พลาด เป็นลูกสองของเจ้าตัวในเกมนี้ด้วย ช่วยให้แชมป์ยูโร 2016 หนีห่างเป็น 2-0
จากนั้นไม่มีประตูเกิดขึ้นเพิ่มเติมอีก ทำให้สุดท้ายจบเกมเป็นโปรตุเกสชนะไป 2-0 ล้างแค้นจากที่เคยแพ้อุรุกวัยในฟุตบอลโลกเมื่อ 4 ปีก่อนได้สำเร็จ รวมถึงยังเก็บ 6 แต้มเต็ม ตีตั๋วผ่านเข้ารอบ 16 ทีมแน่นอนแล้วเป็นทีมที่สามต่อจากฝรั่งเศสและบราซิล
