ประสิทธิ์ เทาดี ผู้ช่วยผู้ฝึกสอนนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ยกเครดิตให้ “โค้ชโจ” ธีระศักดิ์ โพธิ์อ้น อดีตกุนซือของทีม และนักเตะที่มีส่วนทำให้ทีมผ่านเข้ามาถึงรอบชิงชนะเลิศ ช้างเอฟเอ คัพ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
สวาทแคท ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศ ช้างเอฟเอ คัพ เป็นหนแรกในประวัติศาสตร์สโมสร หลังเอาชนะ โปลิศ เทโร เอฟซี 2-1 ในรอบรองชนะเลิศทั้งที่ตามหลังไปก่อน แต่แซงกลับมาชนะสำเร็จ
"แน่นอนเรามีความสุขกับผลการแข่งขัน ผมบอกกับนักเตะก่อนลงสนามว่า เรามาไกลเกินกว่าที่จะมองกลับไปว่า เกิดอะไรขึ้นกับทีมเราบ้าง เขาเป็นคนกำหนด เป็นคนลงไปเล่น ผมคิดว่าไม่มีคำพูดอื่นใดสำหรับฟอร์มการเล่นในวันนี้” ประสิทธิ์ กล่าว
“เราอาจรับเยอะ แต่เราต้องการรักษาสกอร์ไว้ ผมคิดว่า เรามีประสบการณ์กับการเล่นกับ การท่าเรือ ที่เรานำ แต่ปิดเกมไม่ได้ และเปลี่ยนแทคติก เพราะเราไม่มีเวลา พอวันนี้เรามาเริ่มนำก็คิดว่า เราควรเปลี่ยนวิธีการเล่นเพื่อรักษาสกอร์ ซึ่งนักเตะทำได้"
"เราเสียประตูก็บอกนักเตะว่า เขาทำประตูได้จากลูกเซ็ตพีท แต่เขาก็เสียประตูจากลูกนี้เหมือนกัน แต่วันนี้มันอาจไม่เกิดขึ้น แต่เราก็พยายามย้ำในสิ่งที่เขาเล่นก็รู้สึกขอบคุณนักเตะมากกว่า”
ผู้ช่วยกุนซือ สวาทแคท ได้กล่าวถึงการทำหน้าที่แทน เควิล แบล็คเวลล์ เฮดโค้ชชาวอังกฤษที่ไม่ได้ลงคุมทีมข้างสนามว่า “โค้ชเพิ่งกลับไปทำให้เราต้องดูแลแทนต้องซ้อมกับเขา จริงๆ ผมเองก็ยังมีโค้ชที่คอยช่วย แต่ติดภารกิจบางอย่างที่ไม่สามารถมาช่วยได้ เท่าที่ผมรู้ตอนนี้คือโค้ชกลับประเทศอังกฤษ และผมไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะกลับมาไหม”
"ในสนามนักเตะเป็นคนกำหนด แต่เราเตรียมพร้อมจะเล่นกับคู่ต่อสู้ เราอาจไม่ได้ทำเต็มเม็ดเต็มหน่วย แต่เราก็ทำได้ โค้ชไม่มาผมก็ต้องดูแลผู้เล่น โค้ชให้โปรแกรมซ้อมา เราก็ปรับเปลี่ยนเพื่อเล่นกับเทโร เราก็เตรียมพร้อม และฝึกว่าจะเล่นกับเทโรอย่างไร"
"เราทะลุถึงรอบนี้ได้มันเป็นประวัติศาสตร์สโมสร เราไม่รู้ว่าอีกกี่ 10 ปี ที่จะมีโอกาสมาตรงนี้ในนัดสุดท้ายรอบชิงเอฟเอ คัพ ผมว่า พวกเรามาถึงจุดนี้ได้ต้องขอบคุณผู้เล่นตั้งแต่ต้นฤดูกาล พี่โจเองคาดหวังที่เราจะมีแชมป์บอลถ้วยให้โคราช แต่ด้วยอะไรก็ตามที่เกิดขึ้น ผมอยากขอบคุณพี่โจที่เรายังสามารถเดินทางต่อจากพี่โจที่เขาเคยทำ เราสานต่อในนัดสุดท้ายคือนัดชิงชนะเลิศ”
“ขอบคุณนักบอลแฟนบอลทุกคนที่เดินทางมาเชียร์ และทุกคนที่เชียร์ทางบ้าน เรามาไกลมากขอบคุณมากครับ”
สำหรับ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี จะพบกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในฟุตบอลช้างเอฟเอ คัพ 2021/22 รอบชิงชนะเลิศวันที่ 22 พฤษภาคม 2022
