ไฮมี่ ไนยาริง ผู้รักษาประตูทีมชาติบรูไน ขึ้นแท่นเป็นคนที่ทำสถิติเซฟได้มากที่สุดต่อ 1 เกมของฟุตบอลอาเซียนคัพทันทีหลังจากปฏิเสธลูกยิงของทีมชาติไทยไปถึง 11 ครั้ง แม้ว่าจะแพ้ไป 5-0 ในศึกฟุตบอลเอเอฟเอฟ มิตซูบิชิ อิเล็คทริค คัพ 2022 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม A นัดแรก ที่สนามกัวลาลัมเปอร์ ฟุตบอล สเตเดียม เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมา
เกมนี้ทัพช้างศึกครองบอลบุกอยู่ข้างเดียวจากสถิติ 79.9 % ต่อ 20.1% และมีโอกาสยิงมากถึง 33 ครั้ง เข้ากรอบ 16 ครั้งได้มา 5 ประตู ส่วนอีก 11 ครั้งนั้นติดเซฟของนายทวารวัย 24 ปีที่ต้องออกแรงเหนื่อยในเกมนี้
การเซฟ 11 ครั้งของ ไนยาริง ทำให้เขาขึ้นมาเป็นผู้รักษาประตูที่เซฟมากที่สุดในหนึ่งเกมคนใหม่ของรายการนี้นับตั้งแต่มีการเก็บสถิติโดย OPTA เมื่อปี 2014 แทนที่ ฮัสซัน ซันนี่ ผู้รักษาประตูทีมชาติสิงคโปรที่เซฟไป 10 ครั้งในเกมรอบรองชนะเลิศปี 2021 ที่แพ้อินโดนีเซียในช่วงต่อเวลาพิเศษ 4-2
ฟอร์มของ ไนยาริง ยังทำให้ มาโน โพลกิง กุนซือทีมชาติไทย และ ธีราทร บุญมาทัน กัปตันทีมชาติไทย ออกมาชื่นชมหลังเกม
"ถือว่าเราเก็บสามแต้มได้ตามเป้าหมาย และเกมนี้ถือเป็นเกมที่ยาก เพราะเป็นเกมแรกของทัวร์นาเมนต์ บรูไน ก็เป็นทีมที่ดี และต้องชื่นชมผู้รักษาประตูของเขาด้วย ที่สามารถหยุดการยิงของ ทีมชาติไทยได้หลายจังหวะ แต่การเก็บสามแต้มและยิงได้ 5 ประตู ก็เป็นสิ่งที่น่าภูมิใจ อยากให้ทุกคน ภูมิใจที่เราได้รับชัยชนะในวันนี้ และพยายามทำผลงานให้ดีต่อไปในเกมหน้า" ธีราทร กล่าว
ส่วน มาโน โพลกิง เสริมว่า "ผมไม่เห็นด้วยที่จะบอกว่าเราเล่นกันเฉื่อยไป เพราะเราสามารถสร้างโอกาสได้เยอะมาก และมีโอกาสทำประตูตรงกรอบมากถึง 15-16 ครั้ง และหากมองโอกาสรวมทั้งหมด เราสร้างได้ประมาณ 30 กว่าครั้ง เหมือนที่อุ้มเองก็บอกไป ว่า ผู้รักษาประตูเขาก็ทำหน้าที่ได้ดี และเซฟได้หลายครั้ง แต่เราเองก็ต้องพยายามกลับไปแก้ไข เพื่อทำให้ดีขึ้นในเกมต่อไป"
สำหรับทัพช้างศึกได้ 5 ประตูในเกมนี้จาก บดินทร์ ผาลา ,ธีรศิลป์ แดงดา ,การทำเข้าประตูตัวเองของ ยูรา ยูนอส และ พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี 2 ประตู โดยนัดต่อไปจะกลับมาเล่นในบ้านพบ ฟิลิปปินส์ ที่แพ้ กัมพูชา มา 2-3 วันที่ 26 ธ.ค. ที่สนามม.ธรรมศาสตร์ รังสิต
