บุคฆอรี เหล็มดี

ทำความรู้จัก บุคฆอรี เหล็มดี หนุ่มน้อย 17 ปี ผู้ก้าวผ่าน ‘นรกทีมเยือน’

สะสม พบประเสริฐ เป็นหนึ่งในกุนซือที่มักให้โอกาสเด็กเยาวชนอยู่เสมอ ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา บนเส้นทาง ‘เทรนเนอร์’ โค้ชเตี้ย ปั้น ‘ดินสู่ดาว’ มาแล้วนับไม่ถ้วน.. แต่คงไม่มีใครคาดคิดว่าบนสังเวียน นรกทีมเยือน ที่ว่ากันว่าโหดหินที่สุด อย่าง แพท สเตเดียม ในศึกโตโยต้า ไทยลีก วันที่ 14 มีนาคม 2564

เขาจะกล้าส่งหนุ่มน้อยโนเนม ที่เพิ่งอายุครบ 17 ปีเต็มไม่กี่วัน ลงสัมผัสศึกไทยลีกครั้งแรกในชีวิต ในฐานะผู้เล่น 11 ตัวจริง..

ตลอด 60 นาทีที่อยู่ในสนาม  บุคฆอรี เหล็มดี   เดบิวต์ไทยลีกครั้งแรก ด้วยฟอร์มที่ต้องบอกว่า ‘สอบผ่าน’

บุคฆอรี เหล็มดี

นอกจากรับมือกับแนวรุกเงินล้านระดับพระกาฬ อย่าง ยานนิค โบลี ,​ เนลสัน โบนิญา และ เซร์คิโอ ซัวเรส ได้ดีแล้ว เขายังแสดงให้เห็นถึงหัวจิตหัวใจแข็งแกร่ง ‘เอาอยู่’ กับความกดดันจากแฟนบอลที่ แพท สเตเดียม ด้วย

แม้ว่าผลการแข่งขันจะจบลงด้วยชัยชนะของ การท่าเรือ เอฟซี ที่เปิดบ้านชนะ ชลบุรี เอฟซี ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 2-1 แต่นั่นก็ไม่ใช่ประเด็นสำคัญเท่ากับว่า บุคฆอรี เหล็มดี เป็นใครมาจากไหน ?

- จากปักษ์ใต้ สู่ ท้องทะเลตะวันออก

11 มีนาคม 2547 หนุ่มน้อย บุคฆอรี ลืมตาดูโลกที่อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา เขาเกิดมาในครอบที่คุณพ่อ และ คุณแม่ ทำอาชีพกรีดยาง เหมือนคนใต้ส่วนใหญ่ จากนั้นเขาเล่นเริ่มฟุตบอลตั้งแต่อายุ 4 ขวบ ราวกับ ‘เกิดมาเพื่อฟุตบอล’ มีคุณพ่อเป็นผู้ประสิทธิ์ประศาสตร์วิชาให้คนแรก ส่วน คุณแม่ ก็คอยสนับสนุนเป็นอย่างดี

จุดเปลี่ยนเกิดขึ้น เมื่ออายุเพียง 13 ปี บุคฆอรี โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม ในทัวร์นาเมนต์ ยูธลีก รอบชิงแชมป์ประเทศ ที่ กกท. ขณะเล่นให้ สมาคมกีฬาจังหวัดสงขลา จนถูก  รัชกฤต คชชาสุวรรณ ผู้จัดการทั่วไป อคาเดมี่ ชลบุรี  ชักชวนให้ไปอยู่ด้วย และ หลังจากปรึกษากับ คุณพ่อ คุณแม่ เขาก็ไม่ปล่อยโอกาสครั้งสำคัญในชีวิตหลุดมือ เมื่อตอบตกลงทันที..

“ความฝัน และ เป้าหมาย ที่ผมขึ้นมาจากใต้ สิ่งเดียวก็คือ ครอบครัวผม จะต้องสุขกายสบายใจ กับการเป็นนักฟุตบอลอาชีพของผม ผมไม่อยาก ให้ พ่อ กับ แม่ เหนื่อยอีกในอนาคต” บุคฆอรี กล่าวถึงชีวิตในโลกที่กว้างขึ้น

“ผมต้องพัฒนาตัวเองทุกวัน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในชุดใหญ่ ชลบุรี เอฟซี และ การติดทีมชาติไทย ทั้งหมดมันคือความฝัน ของผม ของทุกคนในครอบครัว”

“เพราะถ้าไม่มีวันนี้ กับ ชลบุรี เอฟซี ผมก็คงต้องไปกรีดยาง ช่วย พ่อ กับแม่ อยู่ แต่เวลานี้ ผมมาอยู่ตรงนี้แล้ว ผมต้องเดินหน้าพัฒนาตัวเองต่อไป”

บุคฆอรี เหล็มดี

- ขึ้นชุดใหญ่ ฉลาม ในวัยเพียง 16 ปี 

บุคฆอรี  เข้ามาศึกษาที่ โรงเรียนท่าข้ามพิทยาคม ตั้งแต่ชั้น ม.1 จนปัจจุบันอยู่ ม.4 ที่ผ่านมา เขาเป็นเด็กหนุ่มที่มุ่งมั่นทำงานหนักกับสิ่งที่ใฝ่ฝันมาตลอด ผ่านฟุตบอลเยาวชนรายการใหญ่ๆ มาแล้วมากมาย และ ด้วยฝีเท้าที่โดดเด่นเกินเพื่อนร่วมรุ่น เขาใช้เวลาเพียง 3 ปี ก็มีโอกาสเทิร์นโปรสู่ ‘ฟุตบอลอาชีพ’ ครั้งแรกในชีวิต กับ บ้านบีง เอฟซี ทีมในศึกไทยลีก 3 ภายใต้การคุมทัพของ อดีตกองหลังระดับตำนาน ไพศาล โพธิ์นา

 “ผมตื่นเต้นมากครับ เพราะผมเอง อายุเพียงแค่ 16 ปี แต่ได้มีโอกาสเล่นฟุตบอลลีกอาชีพ ความรู้สึกนั้น มันเป็นเหมือนการเริ่มต้น ในการล่าฝัน ของ ผม ครับ”

“ผมได้มีโอกาสลงเล่น ให้กับ บ้านบึง เอฟซี 4 เกม ผมเล่นครบ 90 นาที ทุกเกม และ เกมที่ผมลงสนาม ทีมชนะ 2 นัด และ เสมอ 2 นัด มันเป็นประสบการณ์ที่ดี และ ตื่นเต้นมาก เพราะผมเคยเล่นแต่ฟุตบอลนักเรียน จนมาถึงวันที่ต้อง ลงเล่นฟุตบอลลีกอาชีพ”

“ทุกอย่างมันไม่เหมือนกันเลย ทั้งความกดดัน ความสามารถของผู้เล่น และ สมาธิ ที่ต้องมีมากกว่าบอลนักเรียน แต่ผมก็พอใจผลงานตัวเอง ในระดับหนึ่งครับ”


และ ด้วยผลงานที่ยอดเยี่ยม ในศึกไทยลีก 3 บุคฆอรี ก็ได้รับโอกาสชึ้นสู่ชุดใหญ่ ชลบุรี เอฟซี ต่อเนื่องทันที เมื่อช่วงเลกสอง ฤดูกาล 2020 จากการผลักดันของ วิทยา เลาหกุล ประธานพัฒนาเทคนิคของทีม ที่เปรียบเสมือน พ่อแท้ๆ อีกหนึ่งคน

บุคฆอรี เหล็มดี

บุคฆอรี กล่าวถึง โค้ชเฮง ไว้ว่า “โค้ชเฮง มักจะเดินเข้ามาสอนผมตลอดเวลา ที่ท่านมีโอกาส ผมนับถือ โค้ชเฮง เสมือนพ่อแท้ๆ ของผม”

“โค้ชเฮง มักจะให้ผม เพิ่มความเป็นผู้นำในสนาม และ ก็ย้ำเสมอว่า ไม่ให้ผมยุ่งเกี่ยวกับอบายมุขทุกชนิด โดยเฉพาะยาเสพติด ครับ และ ผมก็ทำตามแบบที่ โค้ชเฮง บอกทุกอย่าง”

“จนวันนี้ ผมมีโอกาสได้เข้ามาซ้อม กับ ทีมชุดใหญ่ ผมดีใจมากๆครับ ผมแค่เด็ก ม.4 แต่ได้เยือนเคียงข้าง เคลิช, นิรันดร์ ,  พี่และห์ ได้เจอกับ พี่ดิว, พี่ยิม, พี่ก้อง ผมโดนพี่ตี๋ ตะโกนสั่งเกม ผมโดน โค้ชเตี้ย ด่าเมื่อผมเล่นพลาด แค่นี้ผมก็มีความสุขแล้วครับ”

-  14 มีนาคม 2564 เดบิวต์ ไทยลีก ครั้งแรกในชีวิต

การเดินทางจาก ‘ปักษ์ใต้’ วันนั้นมาถึงวันนี้.. .ในที่สุด หนุ่มน้อยวัย 17 ปี อย่าง บุคฆอรี ก็ได้รับโอกาสครั้งสำคัญที่สุดในชีวิต เมื่อในศึกโตโยต้า ไทยลีก 2020 นัดที่ 27 วันที่ 14 มีนาคม 2564 เขาถูก ‘โค้ชเตี้ย’ สะสม พบประเสริฐ กุนซือชลบุรี เอฟซี ส่งลงเล่นในศึกไทยลีกครั้งแรก ในเกมพบกับยักษ์ใหญ่อย่าง การท่าเรือ เอฟซี ที่แพท สเตเดียม สังเวียนที่ขึ้นชื่อความเดือดดาลมากที่สุดแห่งหนึ่งในไทย..

แม้ผลสุดท้าย ฉลามชล จะไม่มีแต้มกลับออกมา แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่านั่นคือ 60 นาที ที่  บุคฆอรี จะจดจำไปตลอดชีวิต

“ตื่นเต้นครับ เพราะกดดัน และ แฟนบอลที่นี่เยอะด้วยครับ” บุคฆอรี  กล่าวกับโกล ประเทศไทย หลังจบเกมวันนั้น

“ผมรู้ก่อนแข่ง 1 วันครับ พี่เตี้ย (สะสม พบประเสริฐ) เรียกไปคุยแล้วถามว่า ไหวมั้ย เกมนี้ ตอนนั้นก็คิดว่าคงเรียกผมไปถามเฉยๆ แต่พอมาวันนี้ได้โอกาสลงเล่น ก็เซอร์ไพรส์มากครับ”

บุคฆอรี กล่าวต่อ “จริงๆ ก่อนเกมพี่เตี้ย ก็ไม่ได้บอกอะไรมากครับ คงกลัวผมกดดันด้วย (ยิ้ม) พี่เตี้ย บอกแค่ว่าห้ามประมาท และ ลงไปเล่นให้เป็นตัวเรามากที่สุด ส่วน พ่อ กับ แม่ ก็น่าจะดูครับ จบเกมก็ส่งข้อความมาว่า ไม่มีอะไรจะเสีย เราทำเต็มที่แล้ว และ ให้ไปเสริมเรื่องกล้ามเนื้อครับ”

บุคฆอรี ยังพูดถึงการเผชิญหน้ากับเหล่าแนวรุกที่เต็มไปด้วยเขี้ยวเล็บของ สิงห์เจ้าท่า ว่า “เก่งมากครับ ตัวใหญ่ด้วย แต่ผมก็พยายามมีสมาธิ ไม่เข้าพรวด และ ดูจังหวะเอาครับ”

“ส่วนตัวพอใจกับตัวเองระด้บหนึ่งครับ ต้องไปเพิ่มกล้ามเนื้อ และ แรงอีกเยอะครับ ที่สำคัญ ผมยังต้องพัฒนาตัวเองอีกหลายอย่างครับ เพราะไทยลีก กับ บอลนักเรียนที่ผมเล่นมา ต่างกันมาก ไทยลีก เล่นกันเร็วมาก และ ผู้เล่นก็คุณภาพสูงทั้งนั้นครับ”

- จารึกประวัติศาสตร์สโมสร..

และนอกจากเป็นย่างก้าวสำคัญของ  บุคฆอรี แล้ว นั่นยังทำให้เขา ขึ้นแท่นเป็นผู้เล่นอายุน้อยอันดับ 2 ที่มีโอกาสลงเล่นโตโยต้า ไทยลีก ให้ ชลบุรี เอฟซี ในวัยเพียง 17 ปี 3 วัน ส่วนอันดับ 1 เป็น วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ที่เคยลงสนามในวัย 16 ปี 11 เดือน 9 วัน จากเกมที่ชนะ สมุทรสงคราม เอฟซี 4-0 ปี 2014

“เป้าหมายจากนี้ ผมจะกลับไปซ้อมทุกวันให้ดีก่อน ไม่ต้องคิดอะไร และ หวังว่าวันหนึ่งผมจะสอดแทรกขึ้นมาเป็นส่วนหนึ่งของทีมได้เรื่อยๆ ครับ” บุคฆอรี ทิ้งท้ายให้เราได้ติดตามกันต่อไป..

บุคฆอรี เหล็มดี
โฆษณา