เครัลด์ ฟาเนนเบิร์ก กุนซือทีมชาติอินโดนีเซีย U23 ไม่ได้มาแถลงข่าวหลังจบเกม เพราะเจ็บคอ ไม่มีเสียงแม้แต่จะพูด จึงส่ง แฟรงค์ ฟาน เคมเพน ผู้ช่วยผู้ฝึกสอน ไปทำหน้าที่แทน หลังดวลจุดโทษเอาชนะ ทีมชาติไทย 7-6 (1-1) ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ ฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน 2025 รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2568
เกมดังกล่าว ช้างศึก U23 ขึ้นนำก่อนจาก ยศกร บูรพา แต่ก่อนหมดเวลา 6 นาที เยนส์ ราเฟน กองหน้าตัวเก่งของเจ้าถิ่น โหม่งประตูตีเสมอ ทำให้จบ 90 นาทีด้วยสกอร์ 1-1 ยังไม่มีผู้ชนะ
ช่วงต่อเวลาพิเศษ นักเตะทั้งสองทีมแรงถดถอยไปตาม ๆ กัน โดยทีมชาติไทยมีโอกาสยิงประตูขึ้นนำหลายครั้ง แต่จังหวะสุดท้ายไม่เฉียบคมพอ ทำให้เกมต้องยืดเยื้อไปถึงช่วงดวลจุดโทษ สุดท้าย อินโดนีเซีย เอาชนะ ช้างศึก U23 ด้วยสกอร์ 7-6 (1-1) ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศไปพบกับ เวียดนาม เป็นการรีแมตช์คู่ชิงเมื่อปี 2023
หลังจบเกม เครัลด์ ฟาเนนเบิร์ก เฮดโค้ชอินโดนีเซีย ไม่ได้มาแถลงข่าวด้วยตัวเอง โดยส่ง แฟรงค์ ฟาน เคมเพน ผู้ช่วยฯ มาเป็นผู้ให้สัมภาษณ์แทน เนื่องจากโค้ชชาวเนเธอร์แลนด์เสียงแหบเสียงแห้ง เพราะตะโกนระหว่างเกมมากเกินไป
"โค้ชเครัลด์ใช้เสียงตะโกนมากเกินไป เขาไม่มีเสียงแล้ว นั่นเป็นเหตุผลที่ผมมาอยู่ที่นี่" ฟาน เคมเพน ผู้ช่วยของ เครัลด์ กล่าวในห้องแถลงข่าว ตอบข้อสงสัยสื่อมวลชนว่าเฮดโค้ชไปไหน
"เรามีความสุขกับชัยชนะในเกมนี้ ทุกคนโล่งอก มันเป็นเกมที่ยากลำบากจริง ๆ สำหรับพวกเรา"
"หลังจบ 90 นาที ต้องต่อเวลาพิเศษ แล้วยังต้องยิงจุดโทษอีก พวกเราตื่นเต้นมาก ดังนั้นมันจึงเป็นชัยชนะที่มีความสุข เพราะเราผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ"
อินโดนีเซีย แชมป์หนึ่งสมัยเมื่อปี 2019 มีคิวพบกับ เวียดนาม ในเกมนัดชิงชนะเลิศ ฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน 2025 รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี แข่งขันในวันอังคารที่ 29 กรกฎาคม 2568 เวลา 20:00 น. ขณะที่ ทีมชาติไทย มีโปรแกรมลงเล่นนัดชิงอันดับสาม พบกับ ฟิลิปปินส์ ในวันจันทร์ที่ 28 กรกฎาคม 2568 เวลา 20:00 น.
