เกิดเป็นเรื่องราวสุดช็อกเมื่อ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ให้สัมภาษณ์แบบหมดเปลือก หลังจากถูก อาร์เนอ ชล็อต จับนั่งสำรองเป็นเกมที่สามติดต่อกัน
แนวรุกทีมชาติอียิปต์ไม่ถูกใช้งานเลยในเกมที่เอลแลนด์ โร้ด ที่จบลงด้วยสกอร์สุดโกลาหล 3-3
เจ้าตัวออกมาพรั่งพรูว่าเขากำลังถูกสโมสรโยนความผิด ถูกหักหลังจากคำสัญญาที่ให้ไว้ และยังไม่เห็นทางกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้ในเวลานี้ ความสัมพันธ์กับ อาร์เนอ ชล็อต ก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป และนี่คือบทสัมภาษณ์ฉบับเต็มของเขาจาก BBC
- คุณคิดอะไรอยู่ตอนที่นั่งเป็นสำรอง? :
“ผมไม่รู้จะพูดอย่างไร มันน่าตลกนะเพราะผมไม่อยากจะเชื่อ มันเป็นผลการแข่งขันที่น่าผิดหวังสำหรับเราในฐานะทีม เพราะเราคาดหวังที่จะชนะเกมแบบนี้
“เราทำได้สองประตูต้นครึ่งหลัง และเกมกำลังเข้าทางของเรา แต่เราเสียประตูแบบบ้าบอ ผมไม่ได้โจมตีเพื่อนร่วมทีมนะเพราะผมอยู่ที่ม้านั่งสำรอง แต่เราเสียประตูแบบบ้า ๆ บอ ๆ เหมือนที่ผ่านมา เราแค่ต้องเก็บคลีนชีทและเอาชนะให้ได้”
- อะไรคือสิ่งที่คุณบอกว่าไม่อยากจะเชื่อ? :
“ก็เรื่องที่ผมนั่งสำรอง 90 นาทีไงล่ะ! สามครั้งติดแล้วบนม้านั่งสำรอง เป็นครั้งแรกในอาชีพของผมเลย ผมผิดหวัง ผิดหวังมาก ๆ ผมสร้างผลงานมากมายให้กับสโมสรแห่งนี้ตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อฤดูกาลที่แล้ว
“แต่ตอนนี้ผมต้องนั่งสำรอง ซึ่งผมเองก็ไม่รู้ว่าทำไม ดูเหมือนกับสโมสรโยนความผิดมาใส่ผม นั่นคือสิ่งที่ผมรู้สึกอยู่ มันชัดเจนมากว่ามีบางคนอยากให้ผมรับผิดทั้งหมดเอาไว้คนเดียว
“ผมได้รับคำมั่นสัญญาต่าง ๆ ในช่วงซัมเมอร์ และตอนนี้ผมนั่งสำรองมาสามเกมแล้ว ซึ่งผมไม่สามารถพูดได้ว่าพวกเขากำลังรักษาคำพูด
“ผมบอกหลายครั้งก่อนหน้านี้ว่าผมเคยมีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้จัดการทีม แต่แล้วทันใด เราก็ไม่เคยมีความสัมพันธ์ใด ๆ ต่อกัน ผมเองก็ไม่รู้ว่าทำไม แต่สำหรับผม ที่ผมรู้สึก มีบางคนไม่อยากให้ผมอยู่ในสโมสร
“สโมสรแห่งนี้ ที่ผมเชียร์ ลูก ๆ ของผมยังคงเชียร์ ผมรักสโมสรแห่งนี้มาก และผมจะรักตลอดไป ผมโทรหาแม่ของผมเมื่อวานนี้ พวกคุณไม่รู้หรอกว่าผมจะได้เป็นตัวจริงหรือเปล่า แต่ผมรู้
“เมื่อวานผมบอกไปว่า ‘มาดูเกมไบรท์ตันสิ (วันเสาร์ที่ 13 ธ.ค.) ผมไม่รู้หรอกว่าจะได้เล่นหรือเปล่า แต่ผมจะมีความสุขไปกับมัน ในหัวของผม ผมจะมีความสุขกับเกมนี้เพราะผมไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
“ผมจะอยู่ที่แอนฟิลด์เพื่ออำลาแฟนบอลและไปเล่นแอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ ผมไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเมื่อผมอยู่ที่นั่น”
- คุณจะทำอย่างไรกับสถานการณ์ตอนนี้? :
“มันเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้สำหรับผม ผมไม่รู้ว่าอะไรเกิดขึ้นกับผม ผมไม่เข้าใจ ผมคิดว่าถ้ามันเกิดขึ้นกับทีมอื่น ทุกสโมสรจะปกป้องนักเตะ สิ่งที่ผมเห็นตอนนี้เหมือนกับ ‘โยนความผิดให้โมสิ เพราะเขาคือปัญหาในทีมตอนนี้’ แต่ผมไม่คิดว่าผมคือปัญหา ผมทำผลงานมากมายให้กับสโมสร
“เรื่องความเคารพ ผมต้องการได้รับมัน ผมไม่ต้องต่อสู้แย่งตำแหน่งเพราะผมควรได้จากผลงานที่ผ่านมา ผมไม่ได้ยิ่งใหญ่กว่าใคร แต่ผมควรได้ตำแหน่งของผม นี่คือฟุตบอล มันเป็นแบบนี้เสมอมา”
- คุณได้เล่นเกมสุดท้ายให้ลิเวอร์พูลไปแล้วหรือยัง? :
“ในโลกฟุตบอล คุณไม่มีทางรู้ได้เลย ผมไม่สามารถยอมรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่นี้ได้ ผมสร้างผลงานมากมายให้กับสโมสร”
- คุณหงุดหงิดมากแค่ไหน? :
“ด้วยความเคารพ ผมรักทุกคน ผมรัก (เออร์ลิง) ฮาลันด์ ผมจะพูดถึงเขา ผมคือดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกคนปัจจุบัน เขายังไม่ใช่ เขาจะได้มันแน่ ๆ หวังว่านะ นั่นเป็นเรื่องที่ดีสำหรับเขา ผมรักเขา และเขารู้เรื่องนั้นดี
“ผมคือดาวซัลโว เป็นนักเตะที่ดีที่สุด คว้าแชมป์ลีกอย่างสวยงาม แต่ผมคือคนที่ต้องปกป้องตัวเองต่อหน้าสื่อและแฟนบอล”
- สิ่งนี้ยิ่งทำให้คุณเจ็บปวดมากขึ้นหรือไม่? :
“แน่นอน หลังจากทุกอย่างที่ผมทำให้สโมสร มันเจ็บปวดมาก คุณสามารถจินตนาการได้เลย จากที่บ้านมายังสโมสร และคุณไม่รู้ว่าคุณจะได้เล่นตัวจริงหรือไม่ ผมรู้จักสโมสรทะลุปรุโปร่ง ผมอยู่ที่นี่มาหลายปี วันพรุ่งนี้ (เจมี) คาร์ราเกอร์ คงเตรียมวิจารณ์ผมอีกแน่ ซึ่งมันไม่เป็นไรเลย”
- ความสนใจในการย้ายไปเล่นซาอุ? :
“ผมไม่อยากตอบคำถามนี้ เพราะสโมสรจะนำพาผมไปในทิศทางที่แตกต่างออกไป”
- สถานการณ์มันเป็นไปไม่ได้ที่จะได้รับการแก้ไขแล้วหรือเปล่า? :
“ผมไม่สามารถพูดว่ามันเป็นไปไม่ได้ แต่จากที่ผมรู้สึก ผมสร้างผลงานมากมายให้กับสโมสร ผมรักแฟนบอลและสโมสรมากเหลือเกิน แต่ผมไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป”
- มันยิ่งทำให้คุณหัวเสียขึ้นไหมที่ไม่ถูกส่งลงสนาม? :
“ผมอยู่กับสโมสรแห่งนี้ ทำประตูได้มากกว่าใครในยุคนี้ นับตั้งแต่ผมมาที่พรีเมียร์ลีก ผมไม่คิดว่ามีใครทำประตูและแอสซิสต์ได้มากกว่าผมทั้งพรีเมียร์ลีก ถ้าผมอยู่ทีมอื่น ทุกคนคงจะหันไปหาสื่อและปกป้องนักเตะของพวกเขา แต่ผมยืนอยู่เพียงลำพังในสถานการณ์นี้
“ผมจำได้ว่ามีครั้งหนึ่งที่ แฮร์รี เคน ยิงไม่ได้ 10 เกม ทุกคนในสื่อต่างบอกว่า ‘โอ้ แฮร์รี ต้องกลับมายิงได้แน่นอน’ แต่พอเป็นโม ทุกคนบอก ‘เขาควรจะไปนั่งสำรองนะ’ ผมขอโทษทีนะ แฮร์รี!”
- ตอนที่คุณบอกว่าบางคนอยากให้คุณออกไปจากทีม คุณหมายถึงใคร? :
“ผมไม่รู้หรอก ผมไม่รู้ ผมไม่รู้จริง ๆ”
- ผู้อำนวยการกีฬาเหรอ? :
“ไม่ ไม่นะ อย่าพูดแทนผมแบบนั้น มันมาจากสถานการณ์ที่ผมมอง แค่นั้นเอง”
- ได้มีใครติดต่อหรืออธิบายสถานการณ์กับคุณบ้างไหม? :
“มีครับ มีเข้ามา แต่ผมไม่เห็นถึงคำอธิบายใด ๆ นะ อย่างที่ผมเพิ่งรู้เมื่อวานว่าผมจะไม่ได้เล่น มันก็แค่นั้น ก้มหน้ายอมรับ และกลับบ้าน”
- คุณได้รับการแจ้งเป็นการส่วนตัวโดย อาร์เนอ หรือไม่ว่าคุณจะไม่ได้เล่น? :
“ใช่แล้ว เขาบอกผมเมื่อวานนี้ ผมได้พูดคุยกับเขา”
- คุณได้เผยความรู้สึกให้เขารู้หรือเปล่า ว่าคุณผิดหวัง? :
“เขารู้ความรู้สึกของผม เขารู้ความรู้สึกของผมดี”
- คุณเสียใจไหมที่ต่อสัญญาใหม่? :
“ลองคิดดูสิว่ามันแย่ขนาดไหนที่ผมต้องตอบคำถามนี้ บอกตามตรง มันเจ็บปวด แค่คำถามก็เจ็บปวดแล้ว สโมสรแห่งนี้ การเซ็นสัญญากับสโมสรแห่งนี้ ผมไม่เคยเสียใจเลย ผมเคยคิดว่าผมจะต่อสัญญาและปิดฉากอาชีพที่นี่ แต่มันไม่ได้เป็นแบบนั้นแล้ว ดังนั้นผมไม่เสียใจที่เซ็นสัญญากับสโมสรแห่งนี้”
- คุณคือหนึ่งในนักเตะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ลิเวอร์พูล คุณเชื่อจริงเหรอว่ามันจะจบแบบนี้? :
“อย่างไรมันก็ต้องจบลงอยู่ดี แต่ในหัวผมตอนนี้คือทำไมมันต้องจบแบบนี้ด้วย? เพราะผมฟิตเกินไปเหรอ? เพียง 5 เดือนก่อนหน้านี้ผมเพิ่งกวาดรางวัลส่วนบุคคลทุกอย่าง แล้วทำไมมันออกมาแบบนี้ล่ะ?
“ผมขอโทษนะ ทุกคนในทีมไม่ได้อยู่ในฟอร์มที่ดีที่สุด แต่ผมเป็นเพียงคนเดียวที่ต้องออกมาปกป้องตัวเองตอนนี้”
- แล้วสเต็ปต่อไปสำหรับคุณคือการไปคุยกับ (อาร์เนอ) อีกรอบ? :
“ไม่ล่ะ ผมไม่คิดแบบนั้น เราพูดคุยกันเยอะมากแล้ว”
- ความสัมพันธ์มันพังทลายลงหรือยัง? :
“ใช่แล้ว ไม่เหลือความสัมพันธ์ใด ๆ ระหว่างเรา มันเคยเป็นความสัมพันธ์ที่ดีมาก ๆ แต่ทันใดนั้น ตอนนี้มันไม่เหลือความสัมพันธ์ใด ๆ แล้ว”
- มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอยู่เบื้องหลังหรือเปล่า? :
“พวกคุณรู้ดีว่าผมเป็นยังไงอยู่แล้ว ผมไม่รู้อะไรหรอก”
- คุณรู้สึกว่าเพื่อนร่วมทีมทำให้คุณผิดหวังด้วยหรือไม่? :
“ไม่นะ ไม่เลย เพื่อน ๆ ของผม พวกเขารู้ดีว่าผมรักพวกเขามากแค่ไหน พวกเขารู้ดีว่าผมให้กำลังใจพวกเขามากแค่ไหน ทั้งก่อนหรือหลังเกม
“ผมเป็นนักเตะที่มีประสบการณ์มากพอ ผมเคยอยู่ในจุดเดียวกับพวกเขา ผมเป็นกำลังใจให้พวกเขาเสมอ ผมคอยให้ประสบการณ์ คำแนะนำพวกเขา แต่ไม่ ไม่เลย เพื่อนนักเตะไม่ได้เกี่ยวข้องกับสถานการณ์นี้ ซึ่งพวกเขาคอยให้กำลังใจผมมากมาย มีแต่ความรักและความเคารพระหว่างเราในฐานะนักเตะ”


