ดีทมาร์ ฮ็อปป์ เจ้าของทีมฮอฟเฟนไฮม์ (คนผมขาว) เชื่อว่า บริษัทยาของเขาจะผลิตวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19ได้ภายในฤดูใบไม้ร่วง
ฮ็อปป์เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ 'CureVac' บริษัทยาสัญชาติเยอรมันที่กำลังเร่งผลิตวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 เพื่อนำมาช่วยผู้คนทั่วโลก ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน-พฤศจิกายนปีนี้
"มันขึ้นอยู่กับ Paul-Ehrlich-Institute (สถาบันวัคซีนของเยอรมัน) ที่ต้องลองใช้มันกับสัตว์ก่อน จากนั้นถึงจะใช้กับมนุษย์ได้" ฮ็อปป์ เผยผ่าน Sport1
"แต่ผมคิดว่ามันน่าจะใช้ได้ในฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งเป็นเวลาที่มีโอกาสเกิดการแพร่ระบาดครั้งใหม่"
ขณะเดียวกัน มีรายงานระบุว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ต้องการซื้อสิทธิ์การใช้วัคซีนจาก 'CureVac' ให้กับประเทศของตัวเองแต่เพียงผู้เดียว อย่างไรก็ดี ฮ็อปป์ยืนยันว่ามันจะไม่มีทางเกิดขึ้น เพราะวัคซีนตัวนี้จะใช้ช่วยผู้คนทั่วโลก
"ถ้าเราพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19ได้สำเร็จ มันจะถูกนำไปปกป้องและช่วยเหลือผู้คนทั่วโลก ไม่ใช่แค่ภูมิภาคใดภูมิภาคหนึ่ง" ฮ็อปป์ กล่าวต่อ
ขณะที่ โรเบิร์ต เฮททิช ซีอีโอของ 'CureVac' กล่าวผ่านหนังสือพิมพ์ Mannheimer Morgen ว่า "เราต้องการพัฒนาวัคซีนเพื่อคนทั้งโลก ไม่ใช่แค่ประเทศใดประเทศหนึ่ง"
ฮ็อปป์เพิ่งกลายเป็นข่าวดังเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา เมื่อเขาถูกแฟนบอลอุลตร้าของ บาเยิร์น มิวนิค ชูป้ายผ้าด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย จนทำให้เกมการแข่งขันต้องหยุดชะงักไปถึง 2 ครั้ง สุดท้ายนักเตะทั้งสองทีมลงมาเล่นต่อจนจบ โดยพวกเขาเลือกที่จะไม่บุกทำประตู แต่ส่งบอลกันไปมาจนสิ้นเสียงนกหวีดเพื่อประท้วงการกระทำที่เกิดขึ้น
สาเหตุที่ ดีทมาร์ ฮ็อปป์ ถูกโจมตีแบบนั้น เพราะแฟนบอลมองว่า เขาทำลายกฎ 50+1 ที่ระบุว่า แฟนบอลต้องถือหุ้นของสโมสร 51% ของสโมสร เพื่อไม่เปิดโอกาสให้เอกชนครอบครองกิจการของทีมแต่เพียงผู้เดียว แต่ฮ็อปป์กลับถือหุ้นของฮอฟเฟนไฮม์ถึง 96% นี่ทำให้แฟนบอลในเยอรมันโกรธแค้นเขาเป็นอย่างมาก โดยก่อนหน้านี้ฮ็อปป์ก็โดนแฟนบอลดอร์ทมุนด์ทำแบบนี้มาแล้ว