Toyota Banner Loga

STAT PACK : เปิดสถิติคุมทีม “บอสโก้” จอมพลิกเกมแห่งบุรีรัมย์ฯ

“เหนียวแน่น รัดกุม และมีทีเด็ด” คือสามสิ่งทีเห็นได้ชัดเจนของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทีมแชมป์โตโยต้า ไทยลีก 5 สมัย ในยุคที่ “บอสโก้” โบซิดาร์ บันโดวิช เฮดโค้ชชาวเซอร์เบียน กลับมาคุมทีมคำรบ 2

แม้จะเข้ามารับไม้ผลัดช่วงครึ่งทางฤดูกาล 2017 ต่อจาก รานโก โปโปวิช แต่อดีตกุนซือโอลิมเปียกอส ก็กล้าพอที่จะเปลี่ยนแปลงวิธีการเล่น และแท็คติก อย่างเป็นรูปธรรม จากบอลสวยงาม ดุดัน เอ็นเตอร์เท็นตั้งแต่นาทีแรก สู่ฟุตบอลที่เล่นอย่างเป็นระบบ มีวินัย แพ้ยาก และมีความสม่ำเสมอ ดังจะเห็นได้จากผลงานตลอดช่วง 7 เดือนที่เขาคุมทีม

“ปราสาทสายฟ้า” เปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง?  โกล ประเทศไทย จะมาเจาะสถิติการทำหน้าที่กุนซือ ทุกนัด ทุกรายการ ของ โบซิดาร์ บันโดวิช อย่างละเอียด

ชนะ 82%

บันโดวิช เข้ามารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 13 กรกฏาคม 2560 โดยมีโปรแกรมนัดแรก คือการเปิดบ้านพบกับ ราชนาวี ก่อนจะประเดิมไปด้วยสามคะแนนเหนือ ตะหานน้ำ ด้วยสกอร์ 2-0

นับตั้งแต่นั้น บุรีรัมย์ฯ ในสมัย “บอสโก้ 2” สามารถเก็บชัยชนะไปได้ถึง 23 นัด จาก 28 เกม คิดเป็น 82% เสมอเพียง 2 นัด และแพ้ไป 3 เกม ซึ่งเป็นการแพ้ในฟุตบอลถ้วยทั้งหมด

เท่ากับว่าการกลับมาคุมทีมในหนนี้ เฮดโค้ชชาวเซิร์บ ยังไม่เคยพลาดท่าเสียทีในลีกเลย แถมเขายังเพิ่งพา บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ ในศึกโตโยต้า ไทยลีก ด้วยการเป็น ทีมแรกที่เก็บชัยชนะเกมเหย้ายาวนานสุดในลีก 12 เกมติดต่อกัน

โบซิดาร์ บันโดวิช

รุกดี-รับแน่น

จุดเด่นที่ชัดเจนของ บันโดวิช ในการสร้างทีม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด โฉมใหม่ คือเรื่องการเล่นเกมรับที่รัดกุม เหนียวแน่น เสียประตูยาก เป็นที่มาทำให้พวกเขากลายเป็น “ทีมที่แพ้ยาก” ไปด้วย

จากสถิติ 28 เกม บุรีรัมย์ฯ เสียไปเพียง 16 ประตูเท่านั้น เฉลี่ย 0.57 ประตู ต่อนัด..ซึ่งเป็นตัวเลขที่ดีกว่า 17 เกมในการคุมทีมของ “โปโป้” รานโก โปโปวิช ที่เสียไป 14 ประตู จาก 17 นัด เฉลี่ยอยู่ที่ 0.82 ประตูต่อนัด

ขณะเดียวกันเกมรุกของ ปราสาทสายฟ้า ไม่ได้ลดทอนความน่ากลัวลงไปมากนัก เมื่อสถิติออกมาว่า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยุคบอสโก้ ทำไปได้ 60 ประตูจาก 28 นัด ค่าเฉลี่ยนัดละ 2.14 ประตู

น้อยกว่ายุคโปโปวิช ที่ยิงได้ 39 ลูกจาก 17 นัด ค่าเฉลี่ยเกมละ 2.29 นัด เพียงแค่ 0.25 เท่านั้น แต่สิ่งที่ได้ทดแทนมาคือ เรื่องของเกมรับ ที่เห็นได้ว่า ตัวเลขการเสียประตูลดน้อยลง ไปอย่างชัดเจน

ที่สำคัญ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ภายใต้การกุมบังเหียนของ บันโดวิช ไม่เสียประตูถึง 15 นัด จาก 28 เกม คิดเป็น 53% จากเกมทั้งหมด แตกต่างกับยุคเดิมที่ เก็บคลีนชีตได้เพียง 7 จาก 17 เกม คิดเปอร์เซนต์อยู่ที่ 41% ของเกมทั้งหมด


ข่าวอื่นๆ | ติดตามข่าว ฟุตบอลไทย เพิ่มเติมที่นี่


สิงห์ครึ่งหลัง

อีกหนึ่งเรื่องที่ โบซิดาร์ บันโดวิชทำได้ดีมากๆ คือกึ๋นในการแก้เกม และปรับหมากกลยุทธ์ ระหว่างการแข่งขัน จนสามารถพลิกเกมและเปลี่ยนผลการแข่งขัน แมตช์นั้นๆได้

จากการคุมทีม 28 นัด เขาสามารถพาทีมกลับมาชนะในครึ่งหลัง (กรณีครึ่งแรกสกอร์เสมอ หรือตามหลัง) ได้ถึง 10 นัด คิดเป็น 35% และพาทีมกลับมาเสมอได้ 1 นัด ในเกมกับ กวางโจว เอเวอร์แกรนด์

นอกจากนี้ สถิติการทำประตูในครึ่งหลังของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยุคบอสโก้ ก็ยิ่งตอกย้ำว่าเขาคือ “โค้ชจอมพลิกเกมตัวจริง” โดยจากจำนวน 60 ประตูที่ทำได้ใน 28 เกมนั้น เกิดขึ้นในช่วงครึ่งแรก 22 ลูก คิดเป็น 36.6%  เทียบไม่ได้เลยกับจำนวนประตูที่เกิดขึ้นในครึ่งหลัง ถึง 38 ลูก คิดเป็น 63.3% จากประตูทั้งหมดที่ทำได้

ในทางกลับกัน การแก้เกมในครึ่งหลังของ บอสโก้ ก็เป็นช่วงเวลาที่ดีสุดเช่นกัน ที่คู่แข่งจะโจมตีปราสาทสายฟ้า โดยจากสถิติ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เสียประตูในครึ่งหลัง 11 ลูกจาก 28 นัด ส่วนต่างจากครึ่งแรก อยู่ที่ +6 ประตู

ส่วนหนึ่งมาจากการที่ บุรีรัมย์ฯ เปิดเกมรุกมากขึ้น ทำให้เกิดพื้นที่ในแผงหลัง ให้ถูกเจาะได้ง่ายขึ้น ซึ่งแตกต่างจากครึ่งแรกที่ ปราสาทสายฟ้า มักจะเล่นอย่างรัดกุม ภายใต้แนวคิด “เกมรับที่ดีต้องมาก่อน” ทำให้พวกเขาเสียประตูใน 45 นาทีแรกแค่ 5 ลูกจาก 28 เกม

แต่มันพอจะคุ้มค่าอยู่บ้าง หากมองสถิติในครึ่งหลัง ที่รูปเกมและจำนวนประตูที่ทำได้ ของ บุรีรัมย์ฯ นั้น มักจะดีขึ้นอยู่เสมอ ด้วยแท็คติก ระบบการเล่น และตัวสำรองที่ใช้...โดยมี โบซิดาร์ บันโดวิช เป็นผู้วางหมาก...อยู่เบื้องหลังตัวเลขที่สวยงามเหล่านั้น

โบซิดาร์ บันโดวิช

สถิติการคุมทีมของ โบซิดาร์ บันโดวิช (13 ก.ค.2560 - 18 ก.พ.2561)

แข่ง : 28 นัด
ชนะ : 23 นัด
เสมอ : 2 นัด
แพ้ : 3 นัด

ยิง : 60 ประตู
ยิงครึ่งแรก : 22 ประตู
ยิงครึ่งหลัง : 38 ประตู

เสีย : 16 ประตู
เสียครึ่งแรก : 5 ประตู
เสียครึ่งหลัง : 11 ประตู

คลีนชีต : 15 นัด

กลับมาเสมอในครึ่งหลัง : 1 นัด

กลับมาชนะในครึ่งหลัง  : 10 นัด

Toyota Banner Loga
โฆษณา