Lionel Messi Bojan Krkic BarcelonaGetty

เกิดอะไรขึ้นกับ โบยาน เกร์กิช? "ผมรู้ตัวว่าผมไม่ใช่นิว เมสซี"

"ถึงที่สุดแล้ว ผมรู้คุณภาพของผมดี ผมรู้ว่าผมไม่ใช่เมสซี ผมคือโบยาน ถ้าจะมีคนบอกว่า หมอนี่ไม่ใช่ นิว เมสซี ก็โอเค ใช่เลย ผมไม่ใช่นิว เมสซี"

หลังจากยิงไปมากกว่า 900 ประตู ในทีมเยาวชนของบาร์เซโลนา โบยาน เกร์กิช ก็ถูกคาดหมายว่าจะเป็นผู้สืบทอดตำนานของนักเตะที่ได้รับการยกย่องว่าอาจจะเป็นนักเตะที่ดีที่สุดตลอดกาลคนหนึ่ง

ในวัย 15 ปี กองหน้าชาวกาตาลันกลายเป็นดาวซัลโวของทีมชาติสเปน ชุดลุยศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป รุ่นอายุต่ำกว่า 17 ปี เมื่อปี 2006 อีก 12 เดือนต่อมา เขากลายเป็นนักเตะยอดเยี่ยมของทัวร์นาเมนต์หลังจากเป็นผู้ยิงประตูชัยในนัดชิงชนะเลิศ

อ่านบทความต่อด้านล่าง

โบยานกลายเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดที่ลงเล่นให้บาร์เซโลนา ด้วยวัย 17 ปี 19 วัน เมื่อเดือนกันยายน 2007 ทำลายสถิติเดิมของลิโอเนล เมสซี ถึง 3 เดือน

ด้วยรูปร่างและสไตล์การเล่นที่มีส่วนคล้ายคลึงกัน ทำให้ทั้งคู่ถูกนำมาเปรียบเทียบกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

แต่แม้จะทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจด้วย 10 ประตูในเกมลีก จากฤดูกาลแรกที่เขาลงเล่นกับทีมชุดใหญ่ ดาวรุ่งรายนี้ก็ต้องเจอปัญหาเรื่องการแบกรับความกดดันจากความคาดหวังที่สูงลิ่วอยู่บนบ่า

"ตอนอายุ 17 ปี ชีวิตผมเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง ผมไปเล่นในฟุตบอลโลกรุ่นอายุต่ำกว่า 17 ปี ตอนเดือนกรกฎาคม ตอนนั้นไม่มีใครรู้จักผมเลย แต่พอผมกลับมา ผมเดินตามท้องถนนยังไม่ได้เลย" โบยานเล่าถึงเรื่องราวของเขาทาง The Guardian

"มันก็ดีทุกอย่าง แต่ในหัวของคุณก็มีอะไรอยู่เต็มไปหมด จนถึงเวลาที่ร่างกายของคุณต้องบอกว่าพอเสียที"

Bojan Krkic - Barcelona 2007Getty Images

ปัญหาด้านจิตใจของโบยานแสดงออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน ตอนที่เขาติดทีมชาติสเปนนัดแรก เป็นเกมที่เจอฝรั่งเศสเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2008 เกมที่น่าจะเป็นทำให้เขาได้กลายเป็นนักเตะทีมชาติที่อายุน้อยที่สุด

แต่กลับกลายเป็นว่า แม้สภาพร่างกายจะพร้อมลงสนาม แต่เขากลับเจออาการวิตกจริตจนต้องถอนตัวออกจากทีม เพียงไม่กี่นาทีก่อนเกมจะเริ่มต้น

"ผมสบายดีตอนที่ผมเข้าห้องแต่งตัว แต่แล้วผมก็รู้สึกมึนหัว, ตื่นกลัวไปหมด จนพวกเขาต้องให้ผมนอนลงบนเตียงของนักกายภาพ" โบยานเล่าถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น

"นั่นคือครั้งแรก แต่ผมต้องเจอเหตุการณ์ขมขื่นแบบนี้อีกหลายครั้ง"

หลุย อาราโกเนส โค้ชทีมชาติสเปนในตอนนั้น อยากเรียกโบยานติดทีมไปลุยในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป เมื่อปี 2008 ซึ่งทัพกระทิงดุเป็นแชมป์ในบั้นปลาย แต่โบยานกลับตัดสินใจถอนตัว เพราะยังรู้สึกหวั่นกับประสบการณ์แย่ๆ ในครั้งก่อน และนั่นยิ่งทำให้เขารู้สึกแย่ยิ่งกว่าเก่า

"ตอนยูโรเข้ามา ผมตัดสินใจว่าผมจะไม่ไป ผมต้องอยู่กับตัวเอง" โบยานกล่าว "ทุกคนในสมาคมฟุตบอลรู้เรื่องอาการของผม ทั้งหลุยส์ อาราโกเนส และเฟร์นานโด เอียร์โร (ผู้อำนวยการกีฬา)

"เอียร์โรส่งข้อความมาหาผมทุกสัปดาห์ เพื่อถามว่าผมเป็นอย่างไรบ้าง ในวันก่อนประกาศรายชื่อ พวกเขาโทรมาบอกว่า โบยาน เราจะเรียกนายติดทีมชาตินะ

"ผมอยู่บนรถ กำลังจะไปสนามซ้อม ผมตอบไปว่า มันเจ็บปวดที่ต้องพูดแบบนี้นะ แต่ผมว่าผมไม่ไหว วันต่อมาผมก็เห็นพาดหัวในหนังสือพิมพ์เขียนว่า สเปนเรียกตัวโบยาน แต่โบยานตอบปฏิเสธ

"พาดหัวนั้นแทบจะฆ่าผม มันเหมือนกับว่าผมไม่ได้แคร์ สิ่งที่เจ็บปวดก็คือพาดหัวนั้น เดาว่าน่าจะมาจากสมาคม"

ด้วยวัยเพียง 18 ปี โบยานเข้าสู่ฤดูกาลที่สองของตัวเองในวงการฟุตบอลอาชีพ แต่ไม่สามารถเค้นฟอร์มเก่งได้เหมือนฤดูกาลแรก เขายิงไปเพียง 2 ประตูในลีก และยังมีปัญหาเรื่องฟอร์มการเล่นในอีก 2 ฤดูกาลต่อมา

ในฤดูกาลสุดท้ายของเขากับบาร์เซโลนา ปี 2010-11 โบยานลงสนามไป 37 นัด แต่เป็นสำรองถึง 20 นัด โดยที่เมสซี, ดาบิด บียา และเปโดร คือตัวเลือกหลักของเป๊ป ในทีมชุดที่พาบาร์ซาคว้าดับเบิ้ลแชมป์ ลาลีกา และแชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อจบฤดูกาล

Bojan Krkic Stoke City

ลึกๆ แล้ว โบยานรู้ดีว่าทางเดียวที่เขาจะได้ลงสนามอย่างสม่ำเสมอคือการย้ายออกจากคัมป์นู

"มันคงเป็นเรื่องง่ายที่จะอยู่บาร์เซโลนาต่อแบบไม่ได้ลงสนาม แต่ผมจำเป็นต้องไป" โบยานอธิบาย

"บางทีในตอนนั้น ผมอาจจะควรใจเย็นกว่านี้ แต่ผมซื่อสัตย์กับตัวเองในการตัดสินใจย้ายทีมเสมอ ผมอยากจะลงเล่น"

อย่างไรก็ดี การย้ายไปโรมา ในปี 2011-12 และถูกยืมตัวไปอยู่เอซี มิลาน ในฤดูกาลต่อมา ก็ไม่ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น เขามักจะถูกส่งตัวลงสนามในฐานะตัวสำรองอยู่ดี

หลังจากที่ทั้งสองทีมในเซเรีย อา ไม่คิดเซ็นสัญญากับเขาต่อ โบยานก็กลับมาบาร์เซโลนา และถูกส่งตัวไปอยู่อาแย็กซ์ ซึ่งเป็นที่ที่เขาเริ่มได้รับโอกาสลงสนามในที่สุด

แม้จะได้แชมป์เอเรดิวิซี โบยานกลับยิงได้แค่ 4 ประตู ทำให้ยักษ์ใหญ่แห่งดัตช์ไม่คิดต่อสัญญากับเขา จนโบยานต้องมาอยู่ในพรีเมียร์ลีกกับสโต๊ค ซึ่งทำผลงานได้น่าประทับใจจาก 11 ประตู ใน 2 ฤดูกาลแรก

อย่างไรก็ดี เขากลับกลายเป็นตัวเลือกสำรองต่อจาก เซอร์ดาน ชากิรี และมาร์โก อาร์เนาโตวิช จนถูกปล่อยให้ไมนซ์ และอลาเบส ยืมตัวในฤดูกาลต่อจากนั้น

ในที่สุด หลังจากย้ายไปอยู่ มอนเรอัล อิมแพคต์ และทำผลงานอยู่ที่นั่น 2 ปี เขาก็ถูกปล่อยตัวโดยไม่ต่อสัญญาเมื่อเดือนธันวาคม 2020 และยังไม่มีสโมสรใหม่จนถึงทุกวันนี้

"สิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ใช่ถ้วยรางวัล มันคือประสบการณ์ ว่าคุณเป็นอยู่อย่างไร อะไรอยู่ในหัวใจของคุณ คุณรู้อะไร คุณใช้ชีวิตอย่างไร" โบยานกล่าว

"ผมรักฟุตบอล และไม่มีใครมาแย่งสิ่งนั้นจากผมไปได้ ผมภูมิใจกับชีวิตค้าแข้งของผม ภูมิใจกับชีวิตของผม และถึงแม้จะเจอช่วงเวลาที่ยากลำบาก คุณก็ต้องอยู่อย่างแข็งแกร่ง"

แม้จะไม่ได้กลายเป็น นิว เมสซี แต่อย่างน้อยก็ดูเหมือนว่า โบยานจะมีความสุขกับชีวิตของตัวเอง

โฆษณา