เกมอุ่นเครื่องทีมชาติคู่ระหว่างฝรั่งเศสที่เปิดบ้านแพ้สเปน 0-2 เมื่อคืนที่ผ่านมา มีการใช้เทคโนโลยีวิดีโอช่วยตัดสิน (Video Assistant Referee - VAR) หลังเกิดความสับสนในคำตัดสินของผู้ตัดสินและผู้กำกับเส้นถึง 2 เหตุการณ์สำคัญ
เริ่มที่เหตุการณ์แรกเกิดขึ้นในนาทีที่ 47 เมื่อ คริสตอฟ ฌัลเลต์ แบ็คขวาเจ้าถิ่นเปิดบอลเข้ามาให้ เลย์แว็ง คูร์กซาวา โหม่งตั้งให้กับ อองตวน กรีซมันน์ โขกเข้าไปตุงตาข่าย แต่หลังจากผู้ตัดสินที่ 1 ชาวเยอรมันอย่าง เฟลิกซ์ ซวาเยอร์ ปรึกษาทีมงานผู้ช่วยซึ่งได้ดูวิดีโอภาพช้าแล้ว กลับตัดสินใจไม่ให้เป็นประตู เพราะแบ็คซ้ายจากปารีส แซงต์ แชร์กแมง ซึ่งเป็นคนโหม่งบอลในจังหวะแรกยืนล้ำหน้าอยู่นั่นเอง
An example of how video assistant refs could be used going forward...
Griezmann scores but the video ref rules it out for offside: pic.twitter.com/r0IswV6EyIอ่านบทความต่อด้านล่าง— ITV Football (@itvfootball) March 28, 2017
ส่วนเหตุการณ์ที่ 2 เกิดขึ้นในลูกที่ได้ประตูนำห่างเป็น 2-0 นาทีที่ 77 จากจังหวะที่ จอร์ดี้ อัลบา ปาดบอลเข้าเสาสองให้กับ เคราร์ด เดวโลเฟว แปจ่อๆ ซึ่งดูเหมือนจะก้ำกึ่งเป็นลูกล้ำหน้าเช่นกัน จนผู้ตัดสินที่ 1ต้องปรึกษาทีมงานผู้ช่วยและตัดสินใจใช้วิดีโอช่วยตัดสินอีกครั้ง ก่อนจะเป่าให้เป็นประตูของทีมเยือนในที่สุด เพราะแนวรุกจากเอซี มิลาน ไม่ได้อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าแต่อย่างใด
Ok, here we go, this is the amount of time it took the video assistant referee to overrule the offside decision and allow Deulofeu's goal pic.twitter.com/kTLn8LgQdD
— ITV Football (@itvfootball) March 28, 2017
ข่าวอื่นๆ | ติดตามข่าว ฟุตบอลทีมชาติ เพิ่มเติมที่นี่
คลิปจังหวะลูกโหม่งกรีซมันน์
คลิปจังหวะลูกยิงเดวโลเฟว
ผลสุดท้ายจบลงด้วยทัพกระทิงดุบุกมาชนะขุนพล เลส์ เบลอส์ 2-0 ถึงถิ่นสต๊าด เดอ ฟรองซ์ พร้อมยัดเยียดความปราชัยให้แก่ลูกทีมของ ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ เป็นนัดแรกนับตั้งแต่แพ้โปรตุเกส 0-1 ในรอบชิงชนะเลิศศึกยูโร 2016 เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม