การเปลี่ยนแปลงพอสมควรหลังจบฤดูกาล 2017 ที่พวกเขาหลุดจากท็อปไฟว์โตโยต้า ไทยลีกครั้งแรก.. เมื่อซีซั่น 2018 ประกาศแต่งตั้ง โกรัน บาร์ยัคทาเรวิช ชาวเยอรมัน เข้ามาเป็นกุนซือชาวยุโรปคนแรก และมี เทิดศักดิ์ ใจมั่น อดีตเทรนเนอร์คนล่าสุด คอย
ค้างคาวไฟ ภายใต้กุนซืออย่าง ไพโรจน์ บวรวัฒนดิลก ที่มีโอกาสเตรียมทีมตั้งแต่ช่วงปรีซั่นครั้งแรก พร้อมชูสโลแกน “Be Better 2018 “ จะทำได้ตามเป้าหมายหรือไม่ ขุมกำลังของพวกเขาที่ว่ากันว่า เกมรุกดูจัดจ้านขึ้น แข็งแกร่งแค่ไหน ? เช็คที่นี่
ข่าวอื่นๆ | ติดตามข่าว ฟุตบอลไทย เพิ่มเติมที่นี่
สรุปนักเตะย้าย เข้า-ออก
เข้า
บวร ตาปลา (ราชนาวี)
กิตติพงษ์ วงมา (ศรีสะเกษ เอฟซี)
กิตติคุณ แจ่มสุวรรณ (ลำปาง เอฟซี)
นวพล ตันตระเสนีย์ (พีที ประจวบ เอฟซี)
ภีมวิทธิ์ ทองนิธิโรจน์ (พัทยา ยูไนเต็ด)
นรงฤทธิ์ บุญสุข (พีทีที ระยอง)
เนลสัน โบนีญา (โอลิเวเรนเซ่)
เอ็นจีวา ราโคโตฮาริมาลาล่า (ราชบุรี มิตรผล เอฟซี)
ออก
ดิยุฟ บิรัม (ชัยนาท ฮอร์นบิล)
คาตาโนะ ฮิโรมิชิ (ตราด เอฟซี)
โรดริโก มารันเยา (ซไวเก้น คานาซาวะ)
พิชิต ใจบุญ (แอร์ฟอร์ซ เซ็นทรัล)
ณัฐวุฒิ คำรินทร์ (หนองบัว พิชญ)
วีรศักดิ์ กายสิทธิ์ (เกษตรศาสตร์ เอฟซี) * ยืมตัว
อาทิตย์ วิเศษศิลป์ (เกษตรศาสตร์ เอฟซี
ผู้รักษาประตู
Goal"ขงเบ๊" ผู้ชำนาญการหนีตกชั้น มาซีซั่นนี้เขาต้องพาทีมจบเลขตัวเดียวแม้ชื่อผู้รักษาประตูของ ค้างคาวไฟ อาจไม่ได้โด่งดังเหมือนทีมอื่นๆ แต่พวกเขายังมี ไพโรจน์ เอี่ยมมาก ที่ประสบการณ์กล้าแกร่งขึ้นเรื่อยๆและไว้ใจได้ ยืนเป็นมือหนึ่ง ขณะที่มือสองเป็น กิตติคุณ แจ่มสุวรรณ ที่ดึงมาจาก ลำปาง เอฟซี เป็นตัวสแตนด์บายชั้นดี
กองหลัง

แม้หลายคนมองว่า สุโขทัย เป็นหนึ่งในทีมหนีตกชั้น แต่ผลงานช่วงปรีซีซั่น พวกเขาแสดงให้เห็นแล้วว่า "ไม่ธรรมดา" เมื่อคว้าแชมป์ช้าง อินวิเตชั่น เหนือทีมอย่าง ชลบุรี เอฟซี , ราชนาวี เอฟซี และ อุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด
ในส่วนของแบ็คขวา ถือว่าขับเคี่ยวกันสนุก เมื่อมีให้เลือกใช้งานหลากหลายสไตล์ทั้ง เอกสิทธิ์ ฉาวบุตร , ศักดรินทร์ มิ่งสมร และ วัรชพล ช่างกลึงเหมาะ ซึ่งคาดว่าหลายหลังจะได้รับโอกาสก่อน ขณะที่แบ็คซ้าย ปิยะราษฎร์ ลาจังหรีด ที่โดดเด่นในเรื่องเติมเกมบุกและลูกนิ่ง เป็นตัวเลือกแรก รองลงมาเป็น ชมพู แสงโพธิ์
ส่วนคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟ ยุทธพงษ์ ศรีละคร กัปตันทีมวัย 32 ปี จะยืนเป็นหัวใจสำคัญจับคู่กับ ปรัชญ์ สมัคราษฎร์ นอกจากนั้นยังมีอีกหลายรายให้คอยสลับสับเปลี่ยนหมุมเวียน ไม่ว่าจะเป็น นรงฤทธิ์ บุญสุข , เกียรติศักดิ์ ธูปขุนทด และ นวพล ตันตระเสนีย์ แถม เอกสิทธิ์ ฉาวบุตร ก็หุบเข้ามาเล่นได้ยามคับขัน
กองกลาง
Goalหลายคนจับจ้องไปที่แนวรุกของสุโขทัย แต่หนึ่งในผู้เล่นสำคัญที่ขาดไม่ได้จริงๆ นั่นคือ จุง เมียง โอ ที่คอยสร้างสมดุลแดนกลางให้ทีม
ขยับมาที่แผงกองกลาง ทางด้านมิดฟิลด์ตัวรับ 2 ราย แน่นอน จุง เมียง โอ ดาวเตะชาวเกาหลีใต้ ที่คอยสร้างสมดุลให้ทีม จองพื้นที่หนึ่งตำแหน่ง โดยคาดว่าจะจับคู่กับ คัพฟ้า บุญมาตุ่น แข้งประสบการณ์สูงวัย 31 ปี มี สรรเสริญ ลิ้มวัฒนะ และ จิรชัย ลดาดก คอยขับเคี่ยวแย่งตำแหน่ง
ขณะที่ตัวรุกสามราย ถือว่าน่าสนใจไม่น้อย โดยเฉพาะปีกสองข้าง ฝั่งขวา หากไม่เจ็บ ไม่ป่วย ไม่แบน จอห์น บาจโจ้ เป็นเจ้าของสัมปทานนี้แน่นอน โดยมีสองดาวรุ่ง กิตติพงษ์ วงมา และ ปิยพงษ์ หอมขจร คอยสแตนด์บาย ด้านฝั่งซ้าย เอ็นจีว่า ราโคโตฮาริลาล่า ที่เพิ่งถูกดึงเข้ามา เป็นตัวเลือกแรก รองลงมาเป็น ภีมวิชช์ ทองนิธิโรจน์ และหากคับขัน ทางด้าน กิตติพงษ์ วงมา และ ปิยพงษ์ หอมขจร ก็ขยับมาเล่นได้
ส่วนมิดฟิลด์ตัวรุก ก็ไม่มีอะไรน่ากังวล เมื่อมีให้เลือกใช้งานค่อนข้างเยอะเช่นกัน แต่คาดว่า บวร ตาปลา แข้งจอมส่องไกล ที่ดึงมาจาก ราชนาวี เอฟซี จะได้รับโอกาสก่อน เลอสันต์ เทียมราช และ ก้องนธีชัย บุญมา
กองหน้า
Goal3 เกมรุกต่างชาติปีนี้ ที่ ค้างคาวไฟ การันตีว่ายิง 30 ประตูขึ้นแน่นอน จะทรงอานุภาพจริงหรือไม่? ต้องติดตามปิดท้ายกันที่แดนหน้า เนลสัน โบนีญา หอกป้ายแดง ดีกรีทีมชาติเอลซัลวาดอร์ เป็นมือปืนเบอร์หนึ่งแน่นอน โดยมี กิตติพงษ์ วงมา และ ปิยพงษ์ หอมขจร คอยหมุนเวียน เช่นเดียวกับ เอ็นจีว่า ราโคโตฮาริลาล่า ก็ถูกดันขึ้นมาใช้งานได้แบบไม่เคอะเขิน
แผน 4-2-3-1
ไพโรจน์
เอกสิทธิ์ , ยุทธพงษ์ (C) , ปรัชญ์ , ปิยะราษฎร์
จุง , คัพฟ้า
บาจโจ้ , บวร , เอ็นจีวา
โบนีญา


