นวลพรรณ ล่ำซำ กับการก้าวสู่ฤดูกาลที่ 5 ในฐานะประธานสโมสร การท่าเรือ เอฟซี โดยปี 2018 เป็นซีซั่นที่ผลงานดีที่สุดตั้งแต่ทำทีมมา
แม้ไม่ได้ถ้วยแชมป์ แต่สร้างสถิติมากมาย ยิงประตูมากสุดและทำคะแนนมากสุดนับตั้งแต่ "สิงห์เจ้าท่า" โลดแล่นบนเวทีไทยลีก ก่อนทะยานจบอันดับ 3 ซึ่งนับเป็นยาใจชั้นดีส่งให้ "มาดามแป้ง" ตัดสินใจจรดปากกาทำ MOU กับการท่าเรือแห่งประเทศไทย ยืดสัญญาเพื่อบริหารทีมฟุตบอลดังย่านคลองเตยออกไปอีก
ฤดูกาล 2019 จเด็จ มีลาภ ยังคงเป็นกุนซือที่ได้รับการไว้วางใจ พร้อมเก็บแข้งตัวหลักไว้ให้ใช้งานครบครัน และได้แข้งใหม่อย่าง สุมัญญา ปุริสาย และ โก ซุลกิ มาเป็นตัวทีเด็ดในปีนี้
ภารกิจลูกหนังซีซั่น 2019 "มาดามแป้ง" นายหญิงท่าเรือยังไม่ลั่นวาจา แต่เชื่อเหลือเกินว่าขวบปีที่ 5 บนหลัง "สิงห์เจ้าท่า" ถึงเวลาแล้วที่ต้อง "คำราม" ให้เหล่าคู่แข่งรู้ว่า การท่าเรือ เอฟซี พร้อมร่วมวงล่าแชมป์
"จเด็จ 2019" : ถ้าปีนี้เจอ "เซอร์จเด็จ" ผอมซูบลง ไม่ต้องตกใจ เหตุอยู่ในช่วงเข้าคอร์สลดน้ำหนัก เพราะอยากดูแลร่างกายให้ดี รวมถึงอยากใส่เสื้อเชิ้ตคุมทีมแบบหล่อๆอีกครั้ง
ผู้รักษาประตู
ด้วยฝีไม้ลายมือบวกดีกรีทีมชาติไทย หากไม่เจ็บไม่ป่วย รัตนัย ส่องแสงจันทร์ จะยืนเป็นมือหนึ่งของทีม โดยมี วรวุฒิ ศรีสุภา และ วัชระ บัวทอง สองนายประตูฝีมือดีนั่งรอบนม้านั่งสำรอง
"อยู่ยาว" : "มาดามแป้ง" สร้างความสุขให้แฟนสิงห์เจ้าท่าก่อนเปิดลีก ด้วยการจรดปากกาต่อสัญญาบริหารทีมออกไปอีก หลังสัญญาเดิมจบสิ้นปี 2019
กองหลัง
แผงหลัง 4 คนตามแผนถนัดของ "มาสเซอร์จเด็จ" เริ่มด้วยตำแหน่งเซนเตอร์ฮาร์ฟ ดาบิด โรเชลา กัปตันทีมชาวสเปนยืนเป็นตัวหลัก โดยมี เอเลียส ดอเลาะ ปราการหลังร่างใหญ่เป็นคู่ขา ขณะที่ ทศพล ลาเทศ พร้อมเบียดแย่งตำแหน่ง ส่วน วรวุฒิ นามเวช และ อธิบดี เอติรัตน์ แข้งสารพัดประโยชน์พร้อมทดแทนเช่นกัน
นิติพงษ์ เสลานนท์ ทำผลงานได้ดีมีมาตรฐานมาตลอด จะได้จับจองตำแหน่ง แบ็กขวา เป็นคนแรกและมี อดิศร แดงเรือง ที่เล่นได้ทั้งกลางรับและแบ็กเป็นตัวสอดแทรก ส่วนแบ็กซ้าย เควิน ดีรมรัมย์ ดาวเตะช้างศึกสายเลือดสวีเดนเป็นแกนหลัก ตามมาด้วย ปัณณ์พันธุ์พงษ์ ปิ่นกอง ที่พร้อมลงมาโชว์หากได้รับโอกาส ขณะที่ ณัฐชนน สร้อยจิตร ยังต้องรอเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากรุ่นพี่ไปก่อน
"ถึงเวลาคำราม" : 73 ประตู 61 คะแนน ผลงานฤดูกาล 2018 คือตัวเลขที่ดีที่สุดของ การท่าเรือ เอฟซี ตั้งแต่เล่นบนลีกสูงสุด และแน่นอนว่าปี 2019 ถ้วยแชมป์คือความท้าทาย
กองกลาง
การเข้ามาของ โก ซุล กิ ดาวเตะเกาหลีใต้สไตล์ Box To Box ส่งให้ สิงห์เจ้าท่า ดูดีมีระดับ ยิ่งการได้จับคู่ก้บ ศิวกร จักขุประสาท มิดฟิลด์ตัวเชื่อมเกมทำให้แผงกองกลางลงตัวเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังมี อนนต์ สมากร เด็กสร้าง คิงส์ เพาเวอร์ ที่แจ้งเกิดเมื่อปีก่อนจนติดทีมชาติไทยชุดกามา เป็นตัวเลือก
รวมถึง อธิบดี เอติรัตน์ ที่พร้อมลงมาเน้นรับเป็นตัวปิดเกม และ สรรเสริญ ลิ้มวัฒนะ แข้งทีมชาติไทยชุด ยู23 ที่อยู่ในช่วงปรับจูนเข้าหาทีมก็เป็นตัวเลือกที่ดีบนม้านั่งสำรอง
ตำแหน่งปีกขวา ปกรณ์ เปรมภักดิ์ ดาวเตะวัย 26 ปี ดีกรีทีมชาติไทยเป็นตัวเลือกแรก หลังพัฒนาฝีเท้าและก้าวข้ามจสกวัยรุ่นสู่แข้งซีเนียร์ ส่วนฝั่งซ้าย นูรูล ศรียานเก็ม ก็จี๊ดจ๊าดตามคำบัญชาเซอร์จเด็จ โดยมี บดินทร์ ผาลา พร้อมลงลุยได้ทั้งสองฝั่งเป็นทางเลือก รวมถึง ภิญโญ อินพินิจ ที่ย้ายกลับมามีชื่ออีกครั้ง
ขยับมาที่มิดฟิลด์ตัวรุก ถ้าไม่มีอาการบาดเจ็บรบกวน เซร์คิโอ ซัวเรส ยังคงเป็นตัวเลือกเบอร์ต้นๆของทีมโค้ช ส่วน สุมัญญา ปุริสาย แข้งดังทีมชาติไทยเจ้าของรางวัล MVP ไทยลีก 2018 ที่ย้ายเข้ามาใหม่ รอเข้าระบบแทคติกของทีมโค้ช
"สยบลือ" : ดราแกน ยังอยู่ดี "มาดามแป้ง" การันตี! โดยมี สุมัญญา ช่วยเพิ่มความโหด
กองหน้า
ดราแกน บอสโควิช ที่ซัดเกิน 100 ประตูบนศึกไทยลีก เป็นมือปืนประจำทีมสิงห์เจ้าท่า โดยมี อาทิตย์ บุตรจินดา หัวหอกจอมทุ่มเทรอคอยลงมา ปะฉะดะ แผงหลังคู่แข่ง ส่วน จิรัตติกาล วาพิลัย อีกหนึ่งเด็กสร้างจาก คิงส์ เพาเวอร์ รอคอยเวลาและพร้อมใส่สกอร์แรกบนลีกอาชีพ
11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาด (4-2-3-1)
รัตนัย (GK)
นิติพงษ์ , เอเลียส , โรเชลา , เควิน
โก ซุล กิ , ศิวกร
ปกรณ์ , ซัวเรซ , นูรูล
บอสโควิช
ผู้เล่น เข้า-ออก (อัพเดตวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2019)
เข้า
จิรัตติกาล วาพิลัย (ฟ็อกซ์ฮันท์)
ณัฐชนน สร้อยจิตร (ฟ็อกซ์ฮันท์)
โก ซุล กิ (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด) *ยืมตัว
สุมัญญา ปุริสาย (ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด)
เออร์เนสโต้ ภูมิภา (ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด)
สรรเสริญ ลิ้มวัฒนะ (ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด)
ออก
แซมมี คัทธจันทร์
เทเรนส์ ปูหิริ
คิม ซุง ฮวาน (สุพรรณบุรี เอฟซี)
ธนากร สายปัญญา
ภูมเรศ กลัดกลีบ (เกษตรศาสตร์ เอฟซี)
สมประสงค์ พรมศร (ขอนแก่น เอฟซี)
ธัชนนท์ นคราวงศ์ (ตราด เอฟซี)
ชาคริต ระวันประโคน (เอ็มโอเอฟ ศุลกากร ยูไนเต็ด) *ยืมตัว
