พีที ประจวบ เอฟซี

วิเคราะห์ 16 ทีมโตโยต้า ไทยลีก : พีที ประจวบ เอฟซี

พีที ประจวบ เอฟซี เป็นหนึ่งในสโมสร ที่มีพัฒนาการยอดเยี่ยมมากที่สุดทีมหนึ่ง โดยเฉพาะฤดูกาล 2019 ที่สร้างประวัติศาสตร์ คว้าแชมป์ โตโยต้า ลีกคัพ เหนือ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่ ทำให้เข้าสู่ซีซั่น 2020 พวกเขาจึงตั้งเป้าหมาย ที่หวังจะสานความสำเร็จต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม หลังผ่าน 4 นัดแรก ดูเหมือนว่า สิ่งที่ ต่อพิฆาต ฝันไว้ไม่ง่าย.. เมื่อพวกเขาเป็น 1 ใน 4 ทีม ที่ยังไม่ชนะใคร ในศึกโตโยต้า ไทยลีก 2020 และ มีเพียง 1 คะแนน รั้งอันดับ 13 ของตาราง - อะไรคือจุดบกพร่องที่ทำให้ทีมตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ และ สิ่งไหนที่ยังพอเป็นจุดแข็งให้พูดถึงได้ ติดตามที่นี่

อ่านบทความต่อด้านล่าง
พีที ประจวบ เอฟซีท่ามกลางสถานการณ์ที่ยังไม่ชนะใคร แต่ 'ต่อพิฆาต' ยังมีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน

จุดแข็ง

แม้ว่าจะออกสตาร์ท 4 นัดแรกได้ไม่ดีนัก แต่ขุนพล ต่อพิฆาต ยังมีจุดแข็งอยู่ที่ทีมเวิร์ค และ ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เมื่อตลอดหลายฤดูกาลที่ผ่านมา ทีมชุดนี้ถูกสร้างขึ้นโดย ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล กุนซือใหญ่ และ ทรงเกียรติ ลิ้มอรุณรักษ์ ประธานสโมสร ที่คอยดูแลทีมเป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีแฟนบอล สนับสนุนอยู่ตลอดไม่ว่าจะแพ้ หรือ ชนะ ทำให้ พีที ประจวบ เอฟซี มีความเป็นครอบครับมากที่สุดทีมหนึ่ง..

โดย ทรงเกียรติ ลิ้มอรุณรักษ์ ในฐานะหัวเรือใหญ่ เชื่อว่าทีมจะกลับมาได้ "ส่วนตัวผมมีโอกาสคุยกับน้องๆ นักฟุตบอลในที่ประชุมแล้วว่า เราเชื่อมั่นว่าพวกคุณทำได้ และ จะกลับมาทำผลงานได้ดีอย่างที่ควรจะเป็นอีกครั้ง"

"ด้วยทีมเวิร์คที่พวกเรานั้นมี ก็จะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ ที่จะทำให้พวกเรากลับมาสร้างความสำเร็จได้อีกครั้งแน่นอน"

เช่นเดียวกับ ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล กุนซือใหญ่ ที่ยังเชื่อมั่นในตัวลูกทีมเต็มเปี่ยมว่า "จริงอยู่ที่เราออกสตาร์ทได้ไม่ดีเท่าไหร่ แต่ฟุตบอลเพิ่งเล่นไปแค่ 4 เกม ผมเชื่อว่าด้วยศักยภาพ และ ทีมเวิร์คที่เรามี เราจะกลับมาอยู่ในเส้นทางที่ดีได้อีกครั้ง และ ตามเป้าหมายที่วางไว้"

จุดบกพร่อง

พีที ประจวบ เอฟซีในฐานะกองหน้าหมายเลข 9 'บรูโน เมเซนกา' ยังไม่ตอบโจทย์มากนัก และ ต้องปรับจูนเข้ากับ วิลเลียม เอ็นริเก ให้ได้

ยิงได้เพียง 2 ประตู จาก 4 นัด บ่งบอกชัดเจนว่า ต่อพิฆาต มีปัญหาอยู่ที่เกมรุก..

การได้ วิลเลียม เอ็นริเก เข้ามา นับว่าตอบโจทย์แท็คติคของ โค้ชวัง แล้ว ในแง่การเล่นรับแน่น และ รอสวนกลับ เพราะ ดาวเตะแซมบ้ารายนี้ ถือเป็นหนึ่งในตัวอันตราย ที่เล่นเกมสวนกลับได้ดีมากที่สุดคนหนึ่งในลีก..

แต่ปัญหาอยู่ที่คู่ขาอย่าง บรูโน เมเซนกา ในฐานะกองหน้าหมายเลข 9 ที่ยังไม่ตอบโจทย์แท็คติคมากนัก หลายครั้งเราจะเห็นว่ากองหน้าวัย 31 ปี ยังทำได้ไม่ดีพอ ทั้งการพักบอล , เก็บบอล และ การจบสกอร์ ที่ยังไม่มีความเด็ดขาด.. จึงทำให้ทั้งคู่ ยังจูนกันไม่ติด และ ในเมื่ออีกฝ่าย ‘ไว้ไจไม่ได้’ ก็กลายเป็นว่า วิลเลียม เอ็นริเก ดูพยายามที่จะเล่นคนเดียวมากเกินไป จนส่งผลเสียต่อรูปเกมทั้งหมด..

นอกจากเกมรุกแล้ว เกมรับ ก็เป็นอีกหนึ่งจุดบกพร่องของ ต่อพิฆาต เช่นกัน เมื่อเสียไปถึง 6 ประตู จาก 4 นัด

พีที ประจวบ เอฟซีการขาดหายไปของ ภูริทัต จาริกานนท์ และ วันเฉลิม ยิ่งยง สองกองกลางตัวรับ ส่งผลชัดเจนต่อเกมของ ต่อพิฆาต

หลายคนอาจจะโฟกัสไปที่ความผิดพลาดของแผง แบ็คโฟร์ แต่หากมองในแง่รายละเอียดจริงๆ แล้วนั้น สิ่งที่ทำให้เกมรับ ต่อพิฆาต ดูหละหลวม คือการขาดหายไปของสองกองกลางตัวรับอย่าง วันเฉลิม ยิ่งยง และ ภูริทัต จาริกานนท์ ที่มีอาการบาดเจ็บ..

วันเฉลิม และ ภูริทัต เป็นสองกองกลางตัวรับ ‘ธรรมชาติ’ ที่ โค้ชวัง มักเลือกใช้งานอยู่ตลอด และ ตอบโจทย์แท็คติคที่ใช้เสมอ แต่พอขาดส่วนนี้ไป จึงทำให้แดนกลางของ ต่อพิฆาต ไม่มีความสมดุล ซ้ำร้าย ยังขาดคนที่คอยดีเลย์เกมรุกคู่แข่ง และ คอยสกรีนบอลก่อนถึงแนวรับ จนทำให้ทีมถูกเจาะง่ายมากขึ้น เพราะ คู่เซนเตอร์ฮาล์ฟค่อนข้างเชื่องช้า ไม่ว่าจะเป็น ยานโต บาสนา , อัดนัน โอราโฮวัช หรือ ไบฮัคกี ไคซาน

ทั้งหมดที่เรากล่าวมา คือจุดบกพร่องที่ ต่อพิฆาต ต้องปรับให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นการจูนกันของผู้เล่นแดนหน้า หรือ การหาความสมดุลระหว่าง กองกลาง และ กองหลัง..

ต้องบอกว่า นี่เป็นความโชคดีของ พีที ประจวบ เอฟซี ที่มีเวลาพอสมควรในการปรุงแต่งทีมในช่วงนี้ หากว่า ‘โค้ชวัง’ หาจุดลงตัวได้ ก็เชื่อว่า ต่อพิฆาต จะกลับมาทำผลงานได้ดีอีกครั้ง แต่หากทำไม่ได้ ก็อาจจะต้องลุ้นเหนื่อยในปีนี้..

สำหรับ พีที ประจวบ เอฟซี มีโปรแกรมกลับมาลงเล่นอีกครั้ง ด้วยการบุกเยือนแชมป์เก่า สิงห์ เชียงรายฯ ในศึกโตโยต้า ไทยลีก 2020 นัดที่ 5 วันที่ 2 พฤษภาคม 2563

โฆษณา