ราเยวัชเปิดใจผ่านAFC : 3แข้งเจลีก, คู่แข่งเอเชียนคัพ / อินเดีย

มิโลวาน ราเยวัช หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย เปิดใจผ่าน สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) เกี่ยวกับประเด็นต่างๆ ก่อนที่ เอเชียนคัพ 2019 รอบสุดท้าย ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) จะเริ่มขึ้น ระหว่างวันที่ 5 มกราคม - 1 กุมภาพันธ์นี้

ช้างศึก ได้สิทธิ์เข้าสู่รอบสุดท้าย เอเชียนคัพ เป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปี ก่อนจับสลากมาอยู่ในกลุ่มเอ ร่วมกับ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ในฐานะเจ้าภาพ , อินเดีย และ บาห์เรน

การได้ 3 ผู้เล่นเจลีก กลับมา (ชนาธิป สรงกระสินธ์ , ธีรศิลป์ แดงดา และ ธีราทร บุญมาทัน)

"พวกเขาได้รับประสบการณ์ที่ดีจากการได้ลงเล่นในลีกที่ดีที่สุดของเอเชีย ซึ่งมีการแข่งขันสูงมาก และคุณคงจะได้เห็นว่าเขาจะสามารถทำอะไรได้มากขึ้นบ้าง"

"พวกเขาเป็นนักเตะที่มีประสบการณ์สูง และยังสามารถสร้างความแตกต่างได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการแข่งขันระดับเอเชียนคัพ"

"ไม่ใช่แค่เป็นประโยชน์ต่อทีมเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเป็นขวัญกำลังใจของนักเตะคนอื่นๆด้วย พวกเขาจะเข้ามายกระดับทีมและเรากำลังรอคอยการมาของพวกเขาที่จะทำให้เราแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม น่าเสียดายที่เราไม่ได้ใช้งานพวกเขาในเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ แต่จากในเกมอุ่นเครื่องกับตรินิแดดฯ ที่พวกเขาได้กลับมาช่วยทีม ก็เห็นได้ชัดเลยว่าทีมยกระดับการเล่นมาได้ดีขึ้นกว่าเดิม"

"พวกเขาจะทำให้ทีมดีขึ้นและนี่คือกลุ่มผู้นำของทีมอย่างแท้จริง มันเยี่ยมยอดมากที่ได้ร่วมงานกับพวกเขา และผมก็ยินดีที่ได้ร่วมงานกับพวกเขาด้วย พวกเขาคือผู้นำทีม และมีประสบการณ์มากที่สุด"

"แต่ในทางกลับกัน ก็เป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักเตะคนอื่นกับการได้พิสูจน์ตัวเองใน เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ เพื่อแสดงให้เห็นว่าสมควรที่จะได้อยู่ร่วมกับทีม และเป็นการสร้างแรงจูงใจที่ดี การได้ลงเล่นในเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ จะช่วยหล่อหลอมทีมให้แข็งแกรงขึ้น"

"ส่วนนักเตะจากต่างประเทศก็ต้องเข้ามาแข่งขันร่วมกับคนอื่นในทีมเช่นกัน ทุกคนต่างก็ต้องสร้างแรงจูงใจของกันและกัน เพื่อพิสูจน์ตัวเองว่ามีดีพอที่จะอยู่ในทีม และต้องต่อสู้อย่างเต็มที่เพื่อตำแหน่งตัวจริง"

พูดถึงคู่แข่งร่วมกลุ่ม

"เราศึกษาข้อมูลคู่แข่งทันทีหลังจบการจับสลาก และผมรู้ดีว่าทุกทีมในกลุ่มต่างก็มั่นใจว่าทีมของตัวเองดีพอที่จะผ่านเข้ารอบต่อไป ทุกทีมมีความเชื่อแบบเดียวกัน ทำให้การแข่งขันภายในกลุ่มนั้นน่าสนใจแน่นอน"

นัดประเดิมสนามที่ต้องพบกับ อินเดีย

"อินเดียพัฒนาขึ้นกว่าเดิมมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จากการได้ร่วมงานกับโค้ชที่เก่ง และเป็นทีมที่แข็งแกร่งกว่าในอดีตอย่างมาก การที่นัดแรกเราต้องเจอกับพวกเขาในเกมระดับเอเชียนคัพเราจึงต้องเน้นเป็นพิเศษและให้ความสำคัญกับเกมนี้เป็นอย่างยิ่ง"

"ทุกคนต้องมีสมาธิและพร้อมรับมือกับทุกเหตุการณ์ที่ยากจะคาดเดาได้ เรามีความเชื่อมั่นในทีมของเรา และเรามั่นใจว่าจะได้รับผลการแข่งขันที่ต้องการ และมารอดูกันต่อไปว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง"

สำหรับ ทีมชาติไทย จะมีการเข้าแคมป์เก็บตัวกันอีกครั้ง วันที่ 19 ธันวาคมนี้ ก่อนประเดิมพบกับ อินเดีย วันที่ 6 มกราคม ต่อด้วย บาห์เรน วันที่ 10 มกราคม และ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) วันที่ 14 มกราคม

ทั้งนี้ แชมป์กลุ่ม และ รองแชมป์ จะได้สิทธิ์ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายต่อไป เช่นเดียวกับ อันดับ 3 ดีที่สุด 4 ทีม จากทั้งหมด 6 กลุ่ม