Giroud Chelsea 2020Getty

นัดชิงฯ ลอนดอนดาร์บี้! เชลซีถอนแค้นแมนฯ ยูฯ 3-1

LIVE UPDATE เอฟเอคัพ : แมนฯ ยูไนเต็ด - เชลซี

เอฟเอคัพ 2019-2020 รอบรองชนะเลิศ เป็นการพบกันระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลงเล่นในสนามเวมบลีย์แบบไร้คนดูตามมาตรการป้องกันโควิด-19 ดวลกับ เชลซี

โอเล กุนนาร์ โซลชา กุนซือปีศาจแดง ตัดสินใจปรับทัพมาเล่นในระบบ 3-4-1-2 โดยใช้ บรูโน แฟร์นันด์ส เล่นหน้าต่ำคอยทำเกมรุกร่วมกับคู่กองหน้าอย่าง มาร์คัส แรชฟอร์ด และ แดเนียล เจมส์

ด้านสิงโตน้ำเงินครามของ แฟรงค์ แลมพาร์ด เลือกวางหมากมาในแผน 3-4-3 ด้วยการใช้สามประสานแนวรุกในแดนหน้าเป็น วิลเลียน, โอลิวิเยร์ ชิรูด์ และ เมสัน เมาท์

อ่านบทความต่อด้านล่าง

เริ่มเกมได้ 15 นาที เป็นฝั่งของเชลซีได้โอกาสทักทายก่อน จากจังหวะที่ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า เปิดบอลทางกราบขวาเข้าเขตโทษให้ มาร์กอส อลอนโซ วิ่งสอดมาโขกข้ามคานไป

จากนั้นนาทีที่ 32 ยูไนเต็ดมีโอกาสบ้าง จากลูกฟรีคิกระยะประมาณ 25 หลาที่ บรูโน แฟร์นันด์ส ปั่นด้วยขวา แต่ยังไม่หนีมือ วิลลี กาบาเยโร ที่ขยับมาปัดทิ้งข้ามคานไปได้

ต่อมานาทีที่ 38 สิงโตน้ำเงินครามมีโอกาสอีกครั้ง จากจังหวะที่ เมสัน เมาท์ เปิดบอลทางกราบซ้ายแฉลบ อารอน วาน-บิสซาก้า เข้าเขตโทษไปถึง เคิร์ต ซูมา โฉบมาโหม่งเหินข้ามคาน

ช่วงทดเวลานาทีที่ 45+2 ปีศาจแดงต้องมาเสีย เอริค ไบญี ซึ่งบาดเจ็บศีรษะจนต้องปฐมพยาบาลอยู่พักใหญ่ จากการปะทะกันเองกับเพื่อนร่วมทีมอย่าง แฮร์รี แม็คไกวร์ ทำให้ตัดสินใจเปลี่ยนตัวสำรองคนแรกด้วยการส่ง อ็องโตนี มาร์กซิยาล ลงมาแทน และปรับแผนมาใช้เป็น 4-2-3-1

อาการบาดเจ็บของ ไบญี ซึ่งใช้เวลาปฐมพยาบาลอยู่หลายนาที ส่งผลให้ช่วงทดเวลาล่วงเลยไปจนถึงนาทีที่ 45+11 ซึ่งเป็นฝั่งของเชลซีมาได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะที่ อัซปิลิกวยต้า เปิดบอลทางกราบขวาเข้าเขตโทษให้ ชิรูด์ โฉบมาดีดด้วยซ้ายแฉลบเซฟของ ดาบิด เด เคอา ปลิ้นเข้าไป ส่งให้สิงห์บลูส์ออกนำในครึ่งแรก 1-0

ครึ่งหลังกลับมาเล่นแค่นาทีเดียวเท่านั้น เชลซีก็มาบวกลูกสองเพิ่มได้อีก จากจังหวะที่ แบรนดอน วิลเลียมส์ จ่ายบอลพลาดไปเข้าทาง เมสัน เมาท์ ลากไปสับไกด้วยขวาแล้ว เด เคอา ดันล้มตัวรับบอลไม่อยู่จนกลายเป็นการปัดบอลปลิ้นเข้าประตูไป ช่วยให้สิงโตน้ำเงินครามหนีห่างเป็น 2-0

จากนั้นนาทีที่ 52 ยูไนเต็ดมีโอกาสใกล้เคียงในการตีไข่แตก จากจังหวะที่ แรชฟอร์ด กระชากหลุดไปยิงมุมแคบด้วยซ้าย แต่บอลพุ่งหลุดเสาไกลออกไปนิดเดียว

ต่อมานาทีที่ 55 ปีศาจแดงซึ่งตามหลังถึงสองประตู ต้องตัดสินใจแก้เกมเปลี่ยนตัวสำรองสองคนรวด ด้วยการส่ง ปอล ป็อกบา กับ เมสัน กรีนวู้ด ลงมาแทน เฟร็ด และ แดเนียล เจมส์

ถัดมานาทีที่ 65 ยูไนเต็ดมีโอกาสอีกครั้ง จากลูกเตะมุมฝั่งซ้ายที่ บรูโน แฟร์นันด์ส เปิดให้ แฮร์รี แม็คไกวร์ เทกตัวโขกบอลแบบไร้ตัวประกบหลุดกรอบออกไป

ทว่านาทีที่ 74 เชลซีก็มาได้ประตูที่สามฉีกหนีไปอีก จากจังหวะที่ มาร์กอส อลอนโซ เปิดบอลทางกราบซ้ายเข้ากลางไปโดน แฮร์รี แม็คไกวร์ สกัดผิดเหลี่ยมเข้าประตูตัวเองไป ส่งให้สิงห์บลูส์นำห่างถึง 3-0

แต่ปีศาจแดงยังไม่ถอดใจ เมื่อมาได้จุดโทษในช่วงท้ายเกมนาทีที่ 85 จากจังหวะที่ มาร์กซิยาล ไปโดน คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย เตะขาจนล้มลงไป ก่อนจะเป็น บรูโน แฟร์นันด์ส รับหน้าที่สังหารไม่พลาด ทำให้ยูไนเต็ดตีไข่แตกไล่มาเป็น 1-3

จากนั้นไม่มีประตูเกิดขึ้นเพิ่มเติมอีก ทำให้สุดท้ายจบเกมเป็นเชลซีชนะไป 3-1 ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศไปทำศึกลอนดอนดาร์บี้แมตช์พบกับอาร์เซนอล วันที่ 1 สิงหาคมนี้ ณ สนามเวมบลีย์

แมนฯ ยูฯ  (3-4-1-2)  : ดาบิด เด เคอา; วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ, แฮร์รี แม็คไกวร์, เอริค ไบญี (อ็องโตนี มาร์กซิยาล น.45+2); อารอน วาน-บิสซาก้า (ทิโมธี โฟซู-เมนซาห์ น.79), เนมานยา มาติช, เฟร็ด (ปอล ป็อกบา น.55), แบรนดอน วิลเลียมส์; บรูโน แฟร์นันด์ส; มาร์คัส แรชฟอร์ด (โอเดียน อิกาโล น.79), แดเนียล เจมส์ (เมสัน กรีนวู้ด น.56)

สำรองไม่ได้ใช้ : เซร์คิโอ โรเมโร, ฆวน มาต้า, อันเดรียส เปเรรา, สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์

ใบเหลือง - ปอล ป็อกบา น.71

เชลซี  (3-4-3) : วิลลี กาบาเยโร; เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, อันโตนิโอ รูดิเกอร์, เคิร์ต ซูมา; รีซ เจมส์, จอร์จินโญ, มาเตโอ โควาซิช (รูเบน ลอฟตัส-ชีค น.86), มาร์กอส อลอนโซ; วิลเลียน (คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย น.80), โอลิวิเยร์ ชิรูด์ (แทมมี อับราฮัม น.80), เมสัน เมาท์ (เปโดร โรดริเกวซ น.90+1)

สำรองไม่ได้ใช้ : เกปา อาร์ริซาบาลากา, ฟิกาโย โทโมรี, อันเดรียส คริสเตนเซน, เอแมร์ซอน พัลมิเอรี, คริสเตียน พูลิซิช

โปรแกรมถ่ายทอดสด 

TV station

beIN SPORTS 1

เช็คโปรแกรมถ่ายทอดสดทุกคู่ได้ทีนี่

วันและเวลาแข่งขัน?

เกม แมนฯ ยูไนเต็ด - เชลซี
วันที่ คืนวันอาทิตย์ที่ 19 กรกฎาคม 2563
เวลา 0.00 น. (เข้าเช้ามืดวันจันทร์)
สนาม เวมบลีย์

สภาพความพร้อมก่อนเกมของทั้งสองทีม

แมนฯยูไนเต็ด จะยังไม่มี ฟิล โจนส์ และ อาเซล ตวนเซเบ้ ที่มีอาการบาดเจ็บ ขณะที่ ลุค ชอว์ ต้องรอเช็คความฟิต แนวรับใช้ แฮร์รี แม็คไกวร์ จับคู่กับ เอริค ไบญี แดนกลางเป็น ปอล ป๊อกบา ประสานงานกับ เนมานยา มาติช ขณะที่แนวรุกเป็น เมสัน กรีนวู้ด, บรูโน แฟร์นันด์ส และ มาร์คัส แรชฟอร์ด คอยปั้นเกม โดยมี อ็องโตนีย์ มาร์กซิยัล ยืนเป็นหัวหอก

เชลซี จะยังไม่มี บิลลี กิลมัวร์ และ เอ็นโกโล ก็องเต้ ที่มีอาการบาดเจ็บ ขณะที่ ฟิกาโย โทโมริ ต้องรอเช็คความฟิต แนวรับใช้ อันโตนิโอ รูดิเกอร์ จับคู่กับ เคิร์ท ซูมา แดนกลางใช้ จอร์จินโญ ประสานงานกับ มาเตโอ โควาซิช และ เมสัน เมาท์ แนวรุกเป็นสามประสาน คริสเตียน พูลิซิช, วิลเลียน และ แทมมี อับราฮัม คอยล่าตาข่าย

11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

แมนฯยูไนเต็ด

โรเมโร(GK)

วาน-บิสซาก้า, ไบญี, แม็คไกวร์, วิลเลียมส์

มาติช, ป็อกบา,

กรีนวู้ด, แฟร์นันด์ส, แรชฟอร์ด

มาร์ซิยัล

เชลซี

กาบาเยโร(GK)

อัธปิลิกวยต้า, รูดิเกอร์, ซูมา, อลอนโซ

เมาท์, จอร์จินโญ, โควาซิช

วิลเลียน, อับราฮัม, พูลิซิช

ตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก 2020

นอกจากต้องมาชิงชัยกันใน เอฟเอ คัพ รอบรองนะเลิศแล้ว ทั้งสองทีมยังเป็นคู่แข่งกันโดยตรงในการขับเคี่ยวท็อปโฟร์ในฤดูกาลนี้ โดย เชลซี รั้งอันดับ 3 ของตาราง แต่มีคะแนนมากกว่า แมนฯยูไนเต็ด อันดับ 5 เพียง 1 คะแนนเท่านั้น ขณะที่เหลือการแข่งขันอีก 2 นัด  

ตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก

ปรแกรมการแข่งขันคู่อื่นๆ

โฆษณา