เซี่ยงไฮ้ - สุโขทัย

ด่านอรหันต์เอเชีย : ย้อนรอยเส้นทางตัวแทนไทยในรอบเพลย์ออฟ ACL

2002-2003 : พลังเอ็ม ทะลุรอบแบ่งกลุ่ม, มังกรไฟซิวรองแชมป์

วรวุฒิ ศรีมะฆะ

ซีซั่นแรกที่มีการเปลี่ยนชื่อการแข่งขัน จาก เอเชียน คลับ แชมเปียนชิพ มาเป็น เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก  ทีมจากไทยได้โควต้า 2 ใบ โดย บีอีซี เทโรศาสน ในฐานะแชมป์ไทยลีกเข้าไปยืนรอในรอบแบ่งกลุ่ม ส่วน โอสถสภา แชมป์ควีนส์คัพและถ้วย ก. ต้องเพลย์ออฟในตั้งแต่รอบ 2 พบกับ เปอร์ซิตา ทันเกรัง ตัวแทนจากอินโดนีเซีย และครั้งนั้นลูกทีมของ “น้าชัช” ชัชชัย พหลแพทย์ บุกเอาชนะคู่ก่อนได้ก่อน 1-0 และยันเสมอในบ้าน 0-0 ผ่านเข้าสู่รอบเพลยออฟรอบ 3 พบกับ เชอร์ชิล บราเธอร์ส ตัวแทนจากอินเดีย

นัดแรกเสมอกันที่อินเดีย 1-1 ก่อนที่ พลังเอ็ม จะกลับมาถล่มคู่แข่งในรังยับเยิบ 6-3 ตีตั๋วเป็น 1 ใน 16 ทีมสุดท้ายที่ผ่านเข้าสู่รอบแบ่งกลุ่ม แม้สุดท้ายจะไปไม่ถึงดวงดาว ด้วยการตกรอบแรกแบบไม่มีคะแนน และยิงได้ 1 ประตูจาก วิมล จันทร์คำ แต่ก็มีเรื่องน่ายินดีที่เพื่อนร่วมลีกอย่าง บีอีซี เทโรศาสน สามารถก้าวไปถึงรอบชิงชนะเลิศ คว้าตำแหน่งรองแชมป์ พ่วงด้วยการได้เอ็มวีพี ของ เทิดศักดิ์ ใจมั่น

2009 : เทิดศักดิ์ ดับฝัน การไฟฟ้า

อ่านบทความต่อด้านล่าง
เทิดศักดิ์ ใจมั่น

เอเอฟซี ได้เพิ่มทีมเข้าร่วมแข่งขัน แชมเปี้ยนส์ลีก จาก 28 เป็น 32 ทีมในปีนี้ โดยมี 5 สโมสรที่ต้องเริ่มจากรอบคัดเลือก ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค แชมป์ไทยลีก 2008 ตัวแทนหนึ่งเดียวจากไทย ที่ต้องเพลย์ออฟตั้งแต่รอบแรกกับ สิงคโปร์ อาร์ม ฟอร์ซ แชมป์เอสลีก  

เกมนี้ มนุษย์ไฟฟ้า ที่มีดาวเด่นอย่าง รณชัย รังสิโย รองดาวซัลโวไทยลีก ,รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค ,อภิภู สุนทรพนาเวศ ต้องเสียท่าให้ เทิดศักดิ์ ใจมั่น จอมทัพอาร์มฟอร์ซ ที่ทำ 2 ประตู 1 แอสซิสต์ พาทีมพลิกชนะ 4-1 ช่วงต่อเวลาพิเศษ ส่งแชมป์ไทยลีกไปเล่น เอเอฟซี คัพ ก่อนที่ทีมนี้จะเปลี่ยนมาเป็น บุรีรัมย์ พีอีเอ ในฤดูกาลถัดมานั่นเอง


TTL Transfers : เกาะติดตลาดนักเตะ "ไทยลีก 2017"

ข่าวอื่นๆ | ติดตามข่าว ฟุตบอลไทย เพิ่มเติมที่นี่


2010 : อาร์ม ฟอร์ซ ย้ำแค้นทีมไทย ต้อนรับ กิเลน สู่เวทีเอเชีย

เมืองทอง ยูไนเต็ด 2010

เมืองทอง ยูไนเต็ด ประสบความสำเร็จอย่างสูงด้วยคว้าแชมป์ไทยลีก สมัยแรกทั้งที่เพิ่งเลื่อนชั้นมาจากดิวิชั่น 1 โดยซีซั่น 2010 คือครั้งแรกในลุยเวทีลูกหนังเอเชีย ผลงานในรอบเพลย์ออฟ รอบแรก กิเลนผยอง บุกไปปราบ เอสเฮชบี ดานัง จากเวียดนาม 3-0  ผ่านเข้าไปพบกับ อาร์ม ฟอร์ซ ทีมแกร่งจากสิงคโปร์ที่เคยดับซ่า การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เมื่อปีที่แล้ว

สิงคโปร์ อาร์ม ฟอร์ซ ยุคนั้นได้ทำการโละนักเตะออกเพื่อเสริมผู้เล่นต่างชาติฝีเท้าดีเข้ามาทดแทน (เทิดศักดิ์ ใจมั่น ย้ายกลับมาเมืองไทย) โดยมีแกนหลักเป็นนักเตะทีมชาติสิงคโปร์ นำโดย นอห์ ราห์มาน, อเล็กซานเดอร์ ดูริค, ดาเนียล เบ็นเน็ต ส่วน เมืองทอง มีดาวดังอย่าง ธีรเทพ วิโนทัย, ณัฐพร พันธ์ฤทธิ์, พิชิตพงษ์ เฉยฉิว นำทัพ ส่วน ธีรศิลปฺ์ แดงดา ตอนนั้นมีอาการบาดเจ็บ ผลการแข่งขันเสมอกันในเวลา 0-0 ก่อนที่ “เดอะ วอร์ริเออร์ส” จะแม่นโทษกว่าเอาชนะไปได้ 4-3 กิเลนผยองตกรอบ ไปสิทธิ์ไปเล่น เอเอฟซี คัพ และไปได้ไกลถึงรอบ 4 ทีมสุดท้าย

2011 : กิเลนช้ำดวลเป้าร่วงยังไปไม่ถึงรอบแบ่งกลุ่ม

Rogerio Coutinho & Dagno Siaka

เมืองทอง ยูไนเต็ด ป้องกันแชมป์ไทยลีกสมัยที่ 2 และซิวตั๋วไปเล่นรอบเพลย์ออฟ ถ้วยใหญ่สโมสรเอเชีย ครั้งนี้ พวกเขานำทัพโดยนักเตะอย่าง ดัสกร ทองเหลา, ดักโน่ เซียก้า, กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์, ธีรศิลป์ แดงดา ,คริสเตียน เคาคู

กิเลนผยอง บุกไปเยือน ศรีวิจาย่า ทีมแกร่งจากอินโดนีเซีย โดยในเวลาปกติเสมอ 1-1 ต่อเวลา 120 นาทีเสมอ 2-2 ทำให้ต้องตัดสินดวลจุดโทษที่ต้องยิงกันถึง 9 คน ก่อนที่ ศรีวิจาย่า จะแม่นกว่าเอาชนะไปได้ด้วยสกอร์รวม 9-8

ส่งผลให้ เมืองทอง ต้องหล่นไปเล่นถ้วยเล็ก เอเอฟซี คัพ ซึ่งพวกเขาทำผลงานได้ดีเหมือนเคย แต่ดันไปโดนฤทธิ์ของ โรเจอริโอ คูตินโญ่ ดาวเตะจอมพริ้วจาก คูเวต เอสซี เล่นงาน ร่วงตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย

2012 : ฉลามชล ถูก ช่างตีเหล็กทุบ

ชลบุรี เอฟซี 2012

ทีมจากไทย ได้โควต้า 1 ทีมรอบแบ่งกลุ่ม และ 1 ทีมรอบเพลย์ออฟ โดย ชลบุรี เอฟซี เข้าป้ายด้วยตำแหน่งรองแชมป์ไทยลีก ลงเล่นเกมชิงตั๋วเข้ารองแบ่งกลุ่ม พบกับ โปฮัง สตีลเลอร์ อดีตแชมป์เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก ปี 2009 โดย ฉลามชล ขนผู้เล่นแบบเต็มสูบ นำโดย เทิดศักดิ์ ใจมั่น ที่รับบทกัปตันทีมเกมดังกล่าว, สินทวีชัย, สุทธินันท์, คูชิดะ, สุรีย์ ฯ

เกมนั้น ชลบุรี เริ่มต้นเกมได้ดีกว่า และมีโอกาสขึ้นนำเจ้าถิ่น ก่อนจะโดนยิงคืน 2 ประตู พ่ายไป 2-0 ตกรอบเพลย์ออฟ ไปเล่นถ้วย เอเอฟซี คัพ อีกครั้ง ซึ่ง พลพรรคฉลามชลฝ่าด่านไปถึงรอบ 4 ทีมสุดท้าย

2013 : ฤดูกาลประวัติศาสตร์ของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน

ปราสาทสายฟ้า เริ่มต้นจากรอบเพลย์ออฟ ในฐานะทีมแชมป์เอฟเอ คัพ ซึ่งคู่ต่อสู้ของพวกเขาคือ บริสเบน โรอาร์ แชมป์เอลีก ไฟนัล โดย บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เอาชนะในการดวลจุดโทษ 3-0 จากการเซฟ 3 ซ็อตติดต่อกันของ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ผ่านเข้าสู่รอบแบ่งกลุ่มพร้อมกับ เมืองทอง ยูไนเต็ด แชมป์ไทยลีก ที่เข้าไปยืนในรอบแบ่งกลุ่มแล้ว ก่อนที่ ปราสาทสายฟ้า จะเป็นทีมเดียวจากไทยที่ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ในฐานะรองแชมป์กลุ่ม และเอาชนะ บุนยอดกอร์ จากอุซเบกิสถาน

ก่อนจะสร้างประวัติศาสตร์ด้วยผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายได้เป็นครั้งแรกและครั้งเดียว แม้สุดท้ายจะไม่สามารถต้านทานความแข็งแกร่งของ เอสเตกัล จากอิหร่าน พ่ายไปด้วยสกอร์รวม 1-3 ก็ตาม

2014 : กิเลนควงฉลาม ลุ้นตั๋วเข้ารอบแบ่งกลุ่ม

Melbourne Victory v Muangthong United

เอเอฟซี เพิ่มโควต้าให้ ทีมจากประเทศไทย ในรอบแบ่งกลุ่ม 1 ทีมอัตโนมัติ และ 2 ทีมที่จะได้เล่นรอบเพลย์ออฟ รอบ 2 โดย เมืองทอง ยูไนเต็ด รองแชมป์ไทยลีก และ ชลบุรี เอฟซี ทีมอันดับ 3 คือผู้ที่ได้รับโควต้าดังกล่าวไป

กิเลนผยอง ลงเล่นเพลย์ออฟรอบ 2 เจอกับ ฮานอย ทีแอนด์ที จากเวียดนาม โดย กิเลน เปิดสนามเอสซีจี สเตเดี้ยม ชนะไปได้ไม่ยากเย็น 2-0 จากการทำประตูของ มาริโอ ยูรอฟสกี และ เจย์ โบธอยด์ ขณะที่ ชลบุรี ฟอร์มเยี่ยมเช่นกัน ถล่ม เซาธ์ ไซน่า จากฮ่องกง 3-0 โดยในรอบ 3 สองตัวแทนจากไทยต่างอกหักพลาดตั๋ว โดย เมืองทอง ยูไนเต็ด บุกไปพ่าย เมลเบิร์น วิกตอรี่ (ออสเตรเลีย) 2-1 และ ชลบุรี แพ้ ปักกิ่ง กั๊วะอัน (จีน) 3-0

2015 : กระต่ายแก้ว เปิดซิงถ้วยใหญ่เอเชีย, ฉลามเกือบเฮที่ญี่ปุ่น

Bangkok Glass FC 3-0 Johor Darul Ta'zim

บางกอกกกล๊าส เอฟซี แชมป์เอฟเอ คัพ และ ชลบุรี เอฟซี รองแชมป์ไทยลีก ได้สิทธิ์ลงเล่นถ้วยใหญ่สโมสรเอเชีย ในรอบเพลย์ออฟ รอบ 2 โดย กระต่ายแก้ว ประเดิมรายการนี้ครั้งแรก (นับตั้งแต่เทคโอเวอร์จาก ธ.กรุงไทย) ด้วยการถล่ม ยะโฮร์ ดารุล ต๊ะซิม จากมาเลเซีย ขาดลอย 3-0 ทำให้ ยะโฮร์ หล่นไปเล่นถ้วย เอเอฟซี คัพ ก่อนจะไปผงาดคว้าแชมป์ถ้วยรองเอเชีย ได้ในที่สุด

ส่วน ชลบุรี เอฟซี ก็ไม่ธรรมดาไล่ต้อน คิตฉี ฮ่องกง ท่วมท้น 4-1 จูงมือ กระต่ายแก้ว ผ่านเข้าสู่รอบ 3 โดย ชลบุรี เอฟซี ต้องบุกไปเยือน คาชิว่า เรย์โซล ทีมอันดับ 4 เจลีก ตลอด 90 นาที ทั้งสองทีมสู้กันได้สุดมัน เสมอกัน 2-2 แต่มาพลาดท่าถูก เลอันโดร กองหน้าชาวบราซิลของ คาชิว่า ยิงในช่วงทดเจ็บ  หมด 120 นาที ชลบุรี พ่ายไป 2-3 ส่วน บางกอกกล๊าส เอฟซี ถูก ปักกิ่ง กั๊วะอัน เอาชนะไปด้วยสกอร์ 3-0

2016 : เมืองทองดวลเซี่ยงไฮ้พันล้าน และฝันร้ายของชลบุรี

FC Tokyo - Chonburi FC

ปราสายสายฟ้า กวาดแชมป์ทุกรายในประเทศ ทำให้โควต้าของแชมป์เอฟเอ คัพ ตกอยู่กับทีมอันดับ 3 อย่าง สุพรรณบุรี เอฟซี แต่เนื่องจากสโมสรไม่พร้อมเรื่องคลับ ไลเซนซิ่ง สิทธิ์รอบเพลย์ออฟจึงตกมาอยู่กับอันดับ 4 อย่าง ชลบุรี เอฟซี ได้ไปล่าตั๋วรอบแบ่งกลุ่มพร้อมกับ เมืองทอง ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 2

โดยในรอบเพลย์ออฟ รอบ 2 นั้น สองตัวแทนจากไทย ต้องหืดจับพอสมควร โดย กิเลนผยอง เอาชนะจุดโทษ ยะโฮร์ ดารุล ต๊ะซิม 3-0 ส่วน ชลบุรี เอฟซี ปาดเหงื่อในช่วงต่อเวลาพิเศษ ก่อนเข่น ย่างกุ้ง ยูไนเต็ด แชมป์ลีกเมียนมา 3-2 ทะลุเข้าสู่รอบ 3 โดย เมืองทอง ยูไนเต็ด ต้านความแกร่งของ เซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี ที่มี สเวน โกรัน อิริคส์สัน คุมทีมและขุนพลระดับพระกาฬทั้ง กียาน, คอนก้า, เอลเคลสัน ไม่ไหว พ่ายไป 3-0 ส่วน ชลบุรี เอฟซี เจอฝันร้ายสุด เมื่อพ่ายต่อ เอฟซี โตเกียว ขาดลอย 9-0 ถือเป็นสกอร์ที่สโมสรจากไทยแพ้ขาดลอยที่สุดในรายการนี้

2017 : แบงค็อกช็อคตาตั้ง, สุโขทัยบุกถิ่นเซี่ยงไฮ้พันล้าน

เซี่ยงไฮ้ - สุโขทัย

แบงค็อก ยูไนเต็ด รองแชมป์ไทยลีก และ สุโขทัย เอฟซี แชมป์ร่วมช้าง เอฟเอคัพ คือสองตัวแทนสโมสรไทยหน้าใหม่ ที่ได้เล่ยรายการนี้ครั้งแรก

โดยในรอบเพลย์ออฟ รอบสอง แข้งเทพ มีคิวดวลกับ ยะโฮร์ฯ จากมาเลเซีย ที่เพิ่งเปลี่ยนโค้ชมาสดๆร้อนๆ เป็นทางแบงค็อกที่ครองเกมได้เหนือกว่าตามคาด จนน่าจะเป็นฝ่ายชนะ แต่กลับมาเจอทีเด็ดของ ยะโฮร์ ตีเสมอ 1-1 ในช่วงต่อเวลาพิเศษนาทีสุดท้าย ก่อนจะพลิกเอาชนะ ไปด้วยการจุดโทษด้วยสกอร์ 6-5 ส่งผลให้ แข้งเทพ ตกรอบคาบ้านไปอย่างเหลือเชื่อ

ขณะที่ สุโขทัย เอฟซี เปลี่ยนโค้ชจาก สมชาย ชวยบุญชุม มาเป็น สมชาย มากมูล โดยในรอบเพลย์ออฟ รอบสอง "ค้างคาวไฟ" เปิดสนามทะเลหลวงถล่ม ยาดานาร์บอน จากเมียนมา
ขาดลอย 5-0 ผ่านเข้าไปพบกับ เซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี ที่เพิ่งได้ ออสการ์ จากเชลซี มาเสริมกำลังร่วมกับ ฮัคส์ และ เอลเคสัน แม้ว่าผลการแข่งขันจะออกมาด้วยความปราชัย 3-0 แต่ต้องรับว่า เกมนั้น สุโขทัย สามารถต่อกกรกับทีมที่รวมนักเตะระดับโลก ได้อย่างอย่างสนุก สูสี ได้ใจแฟนบอลชาวไทย

โฆษณา